กลยุทธ์เปิดร้านเครปเริ่มต้นยังไงให้รุ่ง ต้องทำอย่างไรบ้าง

เครปญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเบเกอรี่สตรีทฟู้ดที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่ร้านเครปญี่ปุ่นจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่คนส่วนใหญ่สนใจทำ ทว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในการขายเครปญี่ปุ่น และไม่ใช่ทุกร้านที่จะรุ่งและมียอดขายเป็นที่น่าพอใจ ดังนั้นวันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ จึงมีกลยุทธ์ดี ๆ ที่จะทำให้ร้านเครปประสบความสำเร็จ และมีกำไรแบบที่ต้องการมาแนะนำให้กับเหล่าผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้กัน 

อุปกรณ์เบื้องต้นสำหรับเปิดร้านเครป

ในการเปิดร้านเครป ผู้ประกอบการควรเริ่มต้นจากการวางแผนก่อนว่าอยากให้ร้านออกมาในรูปแบบใด จะเป็นร้านแบบรถเข็น หรือร้านแบบเคาน์เตอร์ (คีออส) เนื่องจากการเลือกร้านในแต่ละรูปแบบนั้นมีอุปกรณ์ และต้นทุนที่แตกต่างกัน

*รวมราคาต้นทุนค่าอุปกรณ์ทั้งหมด ประมาณ 8,288 บาท (ราคาของอุปกรณ์อาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ซื้อและสถานที่จัดจำหน่าย)

วัตถุดิบที่ต้องมี สำหรับเปิดร้านเครป

การมีวัตถุดิบ และไส้เครปที่หลากหลายไว้ให้ลูกค้าเลือก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะทำให้ร้านเครปรุ่ง และมีจุดขายที่เหนือกว่าร้านคู่แข่ง และสำหรับไส้เครปยอดนิยมที่เรานำมาแนะนำวันนี้ ก็ได้แก่

1. ส่วนผสมสำหรับใช้ทำแป้งเครป ต้นทุนราคา กิโลกรัมละ 100-120 บาท
2. สวีท เบเกอรี่ มายองเนส ตราเบสท์ฟู้ดส์ ราคาเริ่มต้น 70 บาท (870 กรัม)
3.  สเปรดสตรอเบอร์รี่ ตราเบสท์ฟู้ดส์  ราคาเริ่มต้น 185 บาท (1.9 กิโลกรัม)
4. ฟิลลิ่ง กลิ่นคัสตาร์ดใบเตย ตราเบสท์ฟู้ดส์ ราคาเริ่มต้น 52 บาท (900 กรัม)
5. ฟิลลิ่ง กลิ่นวานิลลา ตราเบสท์ฟู้ดส์ ราคาเริ่มต้น 52 บาท (900 กรัม)
6. ฟิลลิ่ง กลิ่นกล้วยหอม ตราเบสท์ฟู้ดส์ ราคาเริ่มต้น 53 บาท (900 กรัม)
7. ซอสพิซซ่า ตราคนอร์ ราคาเริ่มต้น 95 บาท (1 กิโลกรัม)
8. ช็อกโกแลต ท็อปปิ้ง ตราเบสท์ฟู้ดส์ ราคาเริ่มต้น 115 บาท (1.2 กิโลกรัม)
9.  ปูอัด ราคาเริ่มต้น 50 บาท (500 กรัม)
10.   ฝอยทอง ราคาเริ่มต้น 155 บาท (1 กิโลกรัม)
11.   ไส้กรอก ราคาเริ่มต้น 95 บาท (500 กรัม)
12.   กล้วยหอม ราคาเริ่มต้น 89 บาท (1 หวี)
13.   น้ำพริกเผา ราคาเริ่มต้น 85 บาท (900 กรัม)
14.   ซอสพริก ราคาเริ่มต้น 31 บาท (1 กิโลกรัม)
15.   ไข่ไก่ ราคาเริ่มต้น 111 บาท (30 ฟอง)

*รวมราคาต้นทุนค่าวัตถุดิบเบื้องต้น ประมาณ 1,338 บาท (ราคาของวัตถุดิบเบเกอรี่อาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ซื้อและสถานที่จัดจำหน่าย)

รายได้โดยประมาณจากการขายเครป

ราคาขายโดยประมาณหากเป็นเครปร้อนเริ่มต้นตั้งแต่ 20-30 บาท หรือหากเป็นเครปที่มีการใส่ไอเดีย หรือใส่ความสร้างสรรค์ลงไป ก็สามารถเพิ่มมูลค่า และอัปราคาขายได้ประมาณ 40-60 บาท ซึ่งรายได้ของร้านเครปส่วนใหญ่จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000 - 5,000 ต่อวัน หรือตั้งแต่ 90,000 - 100,000 ต่อเดือน แต่เราต้องดูตามหลักความจริงว่าร้านเครปที่ได้ยอดขายสูง ๆ อาจเป็นร้านที่อยู่ในทำเลที่ดี เปิดมานานจึงมีลูกค้าประจำมาก แต่หากเป็นร้านเปิดใหม่ หรือไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ยอดขายต่อวันอาจจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 1,000 ต้น ๆ กำไรต่อเดือนอาจจะประมาณ 10,000 กว่าบาทนั่นเอง

*รายได้จากการขายเครปขึ้นอยู่กับปัจจัย และตัวแปรต่าง ๆ ข้อมูลรายได้ที่เรากล่าวถึงในบทความนี้เป็นเพียงรายได้โดยเฉลี่ย ที่อ้างอิงมาจากร้านเครปโดยส่วนใหญ่ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

กลยุทธ์สุดปังที่จะทำให้ร้านเครปรุ่ง

สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังวางแผน หรือสนใจที่จะลองเปิดร้านเครป แต่ยังไม่รู้จะต้องเปิดร้าน หรือทำยังไงให้ร้านรุ่ง ยอดขายพุ่งแรง วันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ มีกลยุทธ์ดี ๆ มาแนะนำ

• มีสูตรเครปที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน
  การจะเปิดร้านเครปให้รุ่ง ควรจะมีสูตรเครปที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จะเป็นการ “สร้างแบรนด์” ให้กับร้านได้เป็นอย่างดี และยิ่งมีการโปรโมตให้คนรู้จักและรู้ว่าเครปเราแตกต่างกับเจ้าอื่นอย่างไร และหากลูกค้าลองแล้วติดใจ รู้ว่าดีจริง ก็เป็นการสร้างฐานลูกค้าให้หันมาอุดหนุนเครปของทางร้านได้มากขึ้น

• หาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพและราคาเข้าถึงได้
  หลักพื้นฐานของการลงทุนคือถ้าต้นทุนต่ำก็มีโอกาสกำไรสูง ต้นทุนสำคัญของร้านเครป คือ แป้งเครป ไส้เครป ท็อปปิ้งต่าง ๆ แต่ครั้นจะเลือกใช้แต่วัตถุดิบราคาถูกโดยไม่คำนึงคุณภาพก็คงไม่ได้ เพราะสิ่งสำคัญคือการต้องทำให้ลูกค้าให้ติดใจในรสชาติของเครปที่ทำ ดังนั้นนอกจากราแล้วสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือเรื่องของคุณภาพและวัตถุดิบที่นำมาใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอัปกำไรให้ร้านเครปรุ่ง ยอดขายพุ่งทะลุเป้า

• ทำเลคือสิ่งสำคัญ
  จำไว้เสมอว่าฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเครป คือ นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน ดังนั้นทำเลที่เหมาะสมในการเปิดร้านเครปคงหนีไม่พ้นย่านสถานศึกษา ตลาดนัด ถนนคนเดิน หรือทำเลที่อยู่ใกล้สถานที่ทำงาน สถานที่ราชการ ก็จะช่วยยกระดับการเปิดร้านเครปให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

• ต้องทันกระแส และมีไอเดียใหม่ ๆ เสมอ
  การเปิดร้านเครปให้รุ่งไม่ใช่แค่มั่นใจในสูตรที่ตัวเองมีเท่านั้น แต่จะต้องหมั่นตามกระแสให้ทันด้วย อย่างเช่นที่ผ่านมามีทั้งเทรนด์ เครปสายรุ้ง เครปชาร์โคล เครปผลไม้ ดังนั้นถ้าไม่อยากตกเทรนด์
  ก็ควรมีเมนูใหม่ ๆ มานำเสนอเป็นทางเลือกให้ลูกค้าด้วย ซึ่งในยุคนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลจากทั่วโลกได้ง่าย จึงควรติดตามดูว่าไอเดียที่ไหนจะเอามาประยุกต์ทำเครปให้ดูน่าสนใจ หากคิดได้ก่อน ทำได้ก่อน ก็จะเป็นการยกระดับให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ จึงมีไอเดียเมนูเครปสุดสร้างสรรค์มาบอกต่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปต่อยอดสร้างรายได้ เช่น เครปม้วนสาหร่ายไข่หวานมายองเนส เครปพิซซ่าไก่ยอ เครปโรลไส้ไข่คนไส้กรอกเบคอน เครปพิซซ่าหน้ากะเพราเห็ดออรินจิ เครปพิซซ่าหน้าผักสามสี เครปพิซซ่าหน้าสลัดไข่แตงกวาดอง เครปไส้กรอกแป้งตอติญ่า  เครปหมูยอราดซอสหมาล่ามาโย เครปพิซซ่าไส้กรอกไข่ดาว

แชร์สูตรในการทำแป้งเครปญี่ปุ่น

ส่วนผสมแป้งเครป 

1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 
2. เบกกิ้งโซดา 
3. ไข่ไก่ 
4. กลิ่นวานิลลา
5. นมสดจืด 
6. น้ำปูนใส 
7. เกลือ
8. น้ำมันข้าวโพด 
9. น้ำตาลทราย

วิธีทำ น้ำปูนใส

1. นำปูนแดงที่ใช้เคี้ยวหมาก ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมน้ำ 3-4 ลิตร พักไว้ 1-2 คืน ปูนจะตกตะกอนด้านล่าง นำมาใช้เฉพาะส่วนที่เป็นน้ำใส ๆ 

วิธีทำ แป้งเครปญี่ปุ่น

1. เตรียมชามผสม ตะแกรงร่อนแป้ง ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป เกลือเล็กน้อย ตามด้วยเบกกิ้งโซดา และกลิ่นวานิลลา คนพอเข้ากัน ร่อนแป้งใส่ชามไว้  แล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป คนแป้งกับน้ำตาลพอเข้ากัน
2. ใส่นมสดจืด น้ำมันข้าวโพด น้ำปูนใส คนให้เข้ากันดี ตอกไข่ไก่ลงไป ตีไข่ให้แตก แล้วคนจนแป้งเนียนไม่เป็นเม็ด
3. เตรียมตะแกรง ชามผสม กรองแป้งที่ผสมไว้อีกรอบ เพื่อให้แป้งเนียนดี ใส่กล่องปิดฝา หรือแรปพลาสติกปิดปากชามไว้ พักแป้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 20-30 นาที ในตู้เย็น เพื่อให้แป้งเซตตัวดี และกรอบง่ายขึ้น

ทริกในการทำเครป 

สำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นเปิดร้านเครป แล้วอาจจะต้องพบเจอกับปัญหา หรือข้อผิดพลาดในการทำเครป วันนี้เราจึงมีตัวอย่างของปัญหาและทริกง่าย ๆ ในการแก้มาแนะนำ เช่น

• ถ้าเครปที่ทำออกมามีลักษณะเป็นด่าง ผิวไม่เสมอกัน แสดงว่าหน้าเตาเครปมีความมันมากเกินไป แนะนำให้เช็ดเตาด้วยน้ำผสมน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ แล้วเช็ดด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
• ถ้าเครปติดกระทะแสดงว่ากระทะแห้งเกินไป แนะนำให้ใช้น้ำมันพืชทาบาง ๆ แล้วเช็ดออกให้แห้ง
• ถ้าใส่แยม แนะนำว่าไม่ต้องใส่มาร์การีน
• ตอนผสมแป้ง ไม่ต้องตีให้ฟู เพราะแป้งเครปจะเป็นฟอง และทำให้ปาดยาก
• อุณหภูมิเตาสำคัญมาก ควรใช้เตาร้อนปานกลาง โดยทดลองฉีดน้ำหรือสะบัดน้ำลงไป ถ้าน้ำมีเสียงซ่าและค่อย ๆ หายไปคือเตาร้อนกำลังพอดี ถ้าฉีดลงเตาแล้วน้ำหายไปเลยแสดงว่าเตาร้อนเกินไป ถ้าวอร์มเตาพอดีแป้งเครปจะกรอบและเนียนสวย
• ในการผสมแป้ง ถ้าต้องการให้แป้งเนียนสวยควรใช้กระชอนร่อนแป้ง ก่อนผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ 
• ก่อนเทแป้งลงไปเพื่อไม่ให้แป้งติดเตา ควรใช้น้ำมันพืชเช็ดเตาตรงขอบ
• น้ำปูนใสสามารถทำให้แป้งกรอบนานขึ้น 
• ในขณะรอแป้งสุก ควรรอให้แป้งมีสีน้ำตาลเกือบทั่วแผ่นแล้วค่อยใส่ไส้ต่าง ๆ ลงไป จะทำให้ตัวเครปกรอบนานขึ้น
• หลังจากพับเครปขึ้นมาใส่ซองที่เตรียมไว้ ควรผึ่งลมไว้ก่อนเพื่อให้แป้งกรอบนาน อย่าเพิ่งใส่ถุงพลาสติกเพราะจะทำให้แป้งนิ่มและเหนียว
• ถ้าแป้งเครปเหลือควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องเย็นปกติ และควรใช้ให้หมดภายในวันรุ่งขึ้นหรือไม่เกิน 2 วัน สามารถแบ่งไปเก็บที่ช่องฟรีซได้ประมาณ 3 เดือน

สำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะเปิดร้านเครปให้รุ่ง แต่ไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง ก็สามารถนำสาระความรู้ดังกล่าวที่ทาง ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ นำมาบอกต่อ ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการเปิดร้านเครป เพื่อให้กิจการร้านเครปประสบความสำเร็จดังที่มุ่งหวัง 

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากทริกในข้างต้นที่ทางยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์แนะนำไปนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือเรื่องของรสชาติ และการเลือกใช้วัตถุดิบเบเกอรี่ที่มีคุณภาพ และจะต้องหมั่นสอบถามลูกค้าถึงความพึงพอใจ ส่วนใดที่ต้องปรับปรุงก็นำกลับมาพัฒนาเพื่อให้ร้านมีคุณภาพยิ่ง ๆ ขึ้นไป