กำลังโหลด
ในยุคที่ใครๆ ต่างก็ใช้สมาร์ทโฟน แค่อาหารรสชาติดีอย่างเดียวนั้นไม่พออีกต่อไป
ทุกวันนี้กระแสการกินอาหารนอกบ้านยิ่งนับวันยิ่งมากขึ้น เพราะนอกจากเรื่องความสะดวกแล้ว ยังเป็นการสะท้อนไลฟ์สไตล์อีกทางหนึ่ง เพราะใครๆ ต่างก็ชอบ “แชะ&แชร์ ก่อนกิน” ไม่ว่าจะนั่งในร้านข้าวตามสั่งข้างทางหรือชิลล์อยู่ในคาเฟ่กิ๊บเก๋ ต่างก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกันทั้งนั้น งานหนักจึงตกที่ร้านอาหาร ต้องพยายามสร้างสรรค์อาหารให้อร่อย สวยงามน่ากินและแปลกใหม่ไว้ดึงดูดและมัดใจลูกค้า ส่วนว่าร้านแบบไหนควรมีจานเด็ดยังไงลองมาดูกัน
ร้านสไตล์นี้เน้นที่ความเร็วและสดใหม่เป็นหลัก การปรุงร้อนๆ จานต่อจานจะทำให้กลิ่นหอมยั่วยวนลูกค้าได้ดี ดังนั้นร้านสไตล์นี้ต้องเน้นอาหารที่กลิ่นหอมๆ ไว้ก่อน เช่น ข้าวผัดกะเพรา ผัดฉ่า ต่างๆ หรือแม้แต่สเต็กราคาจานด่วนที่ย่างมาร้อนๆ หอมกลิ่นเครื่องเทศและพริกไทย
ร้านแนวนี้รสชาติต้องมาก่อน ต้องออริจินอลจริงๆ เผ็ดเป็นเผ็ด เปรี้ยวเป็นเปรี้ยว เครื่องต้องถึง ส่วนหน้าตาถ้าจัดตกแต่งและเสิร์ฟในจานชามให้สวยงามกว่าคู่แข่งได้ก็จะยิ่งชวนเชิญลูกค้าได้มากขึ้น เช่น ต้มยำกุ้งต้องหอมสมุนไพรรสชาติเปรี้ยวเผ็ดถึงใจ ผัดขี้เมาที่ต้องเผ็ดจัดจ้านจนตาสว่าง หรือแกงพะแนงต้องกลมกล่อมหอมพริกแกงและไม่หวานนำจนเสียรส
สำหรับร้านแบบนี้บรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญ ต้องนั่งสบาย ร้านตกแต่งสวยงาม เพลงไพเราะ ส่วนอาหารมักมีความหลากหลายอาจมีทั้งอาหารไทยฟิวชั่น ฝรั่ง ของหวาน ยิ่งมีครบยิ่งดึงลูกค้าได้มากขึ้น ที่สำคัญหน้าตาของอาหารต้องสวยงาม สามารถถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ ได้ เช่น สเต็กปลาแซลมอนย่างราดซอสเขียวหวานจัดเสิร์ฟบนหินภูเขาไฟเผาให้ร้อน หรืออาจเป็นลอดช่องไทยราดซอสคารเมล ที่มาในแก้วหล่อจากน้ำแข็งก็เก๋กู๊ดไม่เบา
แต่ไม่ว่าจะเป็นร้านสไตล์ไหน อาหารเป็นอะไร สิ่งสำคัญที่สุดของทุกๆ ร้าน คือ “รสชาติต้องอร่อย” จึงจะมัดใจให้ลูกค้ากลับมากินอีก เพราะฉะนั้นการเลือกสรรวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสรวมถึงเทคนิคการปรุงจึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจและพิถีพิถันเป็นอันดับแรก
เลือกเครื่องหมายแบ่งปันด้านล่าง และเลือกเพิ่มในหน้าแรก เลือกเครื่องหมายแบ่งปันด้านบน และเลือกเพิ่มในหน้าแรก เลือกเครื่องหมายแบ่งปันด้านล่าง และเลือกเพิ่มในหน้าแรก เลือกเครื่องหมายแบ่งปันด้านล่าง และเลือกเพิ่มในหน้าแรก