วิธีเก็บรักษาเบเกอรี่ให้สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากเตา
เบเกอรี่ทำเหลืออย่าเพิ่งทิ้ง มาดูวิธีเก็บเบเกอรี่ยังไงให้สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากเตา
ผู้ประกอบการหลายรายอาจจะกำลังพบเจอกับปัญหาในการเก็บรักษาเบเกอรี่ที่ยังขายไม่หมด ว่าควรจะเก็บรักษายังไงให้เบเกอรี่ที่เหลืออยู่ให้สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากเตา และสามารถนำกลับมาขายได้อีกครั้ง วันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ ก็ไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับดี ๆ วิธีเก็บรักษาเบเกอรี่ให้สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากเตา ให้เหล่าผู้ประกอบการได้นำไปปรับใช้ในการเก็บรักษาเบเกอรี่ที่ร้านกัน
เคล็ดลับการเก็บขนมปัง
ควรเก็บในตู้เย็นช่องแช่แข็ง เพราะความเย็นในระดับที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง จะยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ทำให้ยังคงความสดใหม่ของขนมปังและอาหารสดทั่วไปได้ วิธีเหล่านี้สามารถใช้ได้กับขนมปังปอนด์ ขนมปังที่เกิดจากการหมักของยีสต์จากธรรมชาติ (sourdough) ขนมปังฝรั่งเศส (baguette) และขนมปังทั่วไปที่ไม่มีไส้ ขนมปังรสชาติต่าง ๆ เช่นขนมปังรสนมฮอกไกโด ขนมปังรสช็อกโกแลต ขนมปังกล้วยหอมลูกเกดและขนมปังฟักทองงาดำแต่ก่อนจะนำเข้าไปเก็บไว้ในตู้แช่แข็งควรบรรจุไว้ในหีบห่อ ตามวิธีต่อไปนี้
- ห่อด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ หากเป็นขนมปังที่ยังไม่หั่น แนะนำให้หั่นเป็นแผ่นก่อน เว้นแต่เป็นขนมปัง Bagel สามารถนำไปห่อทั้งชิ้นได้ การห่อขนมปังด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์แล้วนำเข้าช่องแช่แข็ง จะช่วยให้สามารถเก็บขนมปังไว้ได้นานประมาณ 3 เดือน
- ห่อด้วยกระดาษทิชชู ฟู้ดเกรดแบบหนา แล้วใส่ถุงซิปล็อก เก็บได้นานประมาณ 3 สัปดาห์
- เรียงขนมปังลงในกล่องสุญญากาศ เว้นที่แล้ววางถ้วยที่ใส่วิสกี้ไว้ลงไปภายในกล่อง ปิดฝากล่องให้มิดชิดวางไว้ในอุณหภูมิห้อง แอลกอฮอล์ในวิสกี้จะระเหยออกมายับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ทำให้เก็บได้นานถึง 2 เดือน
เคล็ดลับการเก็บเค้ก
เค้กเป็นอาหารที่เสียง่าย เพราะส่วนผสมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ไข่ เนย ครีม น้ำตาล เป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับจุลินทรีย์ไว้ใช้ในการเจริญเติบโต เค้กที่มีหน้าเป็นครีมหรือน้ำตาล มูสเค้ก ชีสเค้กที่ละลายง่าย เหมาะกับการนำไปเก็บแช่ไว้ในตู้เย็น ที่อุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส แต่อย่างไรก็ตามการแช่เค้กในอุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียสจะทำให้เค้กแข็งและแห้งเพราะน้ำในตัวเนื้อเค้กระเหยออกไป ดังนั้นการเก็บเค้กในตู้เย็นจึงต้องห่อหุ้มเค้กให้มิดชิดหรือเก็บในภาชนะปิดเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำควบคู่ไปด้วย การเก็บรักษาเค้กแต่ละประเภทอย่างถูกวิธีสามารถทำได้ดังนี้
- ฟรุตเค้ก คือเค้กที่มีผลไม้แห้ง, ถั่วนัตแห้ง ๆ และเหล้าเป็นส่วนผสมหลัก สามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือนหรือหลายปีถ้าอยู่ในกล่องภาชนะปิดมิดชิด
- เค้กที่ไม่ได้แต่งหน้าด้วยครีมหรือน้ำตาลและไม่มีไส้ เช่น ชิฟฟอน หรือเค้กไข่ ควรห่อด้วยฟิล์มพลาสติกให้มิดชิด สามารถเก็บในตู้เย็นได้ 3-5 วันโดยไม่แห้งแข็ง แต่ถ้าเก็บในช่องฟรีซจะอยู่ได้ 2-4 เดือนเลยทีเดียว
- เค้กที่มีไส้หรือครีมเป็นชั้น เค้กแต่งหน้าด้วยครีมหรือน้ำตาล เช่น เค้กลาวา ไส้วานิลลา-สตรอว์เบอร์รี เค้กช็อกโกแลตรสส้ม เค้กกล้วยหอมดอกไวโอล่าและเซอร์ไพรส์เค้ก ควรเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิดในตู้เย็น หรือจะเอาไปแช่เย็นก่อนสัก 15-30 นาทีจนครีมหรือน้ำตาลบนหน้าเค้กแข็งตัว แล้วห่อด้วยฟิล์มพลาสติกแล้วนำไปแช่ จะเก็บได้นานประมาณ 2-4 เดือน
- เค้กที่หั่นเป็นชิ้นหรือเค้กที่ตัดแล้ว เช่น เค้กโรลงาดำมูสชานมและเค้กลูกแพร์ และสตรอว์เบอร์รีช็อตเค้ก ต้องใช้พลาสติกห่อปิดตรงรอยตัดให้มิดชิด เพราะน้ำจะระเหยออกจากเนื้อเค้กตรงรอยตัด เพราะเค้กที่ถูกหั่นแล้วจะเสียเร็วที่สุด
เคล็ดลับการเก็บครัวซองต์
- ครัวซองต์แบบไม่มีไส้ เช่นครัวซองต์บัตเตอร์ สามารถเก็บโดยการนำมาห่อแยกด้วยฟิล์มยืด (cling film) เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อของครัวซองต์แห้ง จากนั้นให้นำไปเก็บแช่ในช่องฟรีซแบบลมเย็นที่อุณหภูมิ -19 ในขณะที่แช่ต้องระวังไม่ให้มีไอน้ำเกาะเพราะจะทำให้ครัวซองต์เสียรสชาติ และเมื่อต้องการจะนำออกมาขายอีกครั้งให้นำมาอุ่นด้วยเตาอบลมร้อนที่อุณหภูมิ 130 องศา โดยใช้เวลาประมาณ 6 นาที วิธีนี้สามารถเก็บรักษาครัวซองต์ไว้ได้ประมาณ 5-7 วัน
- ครัวซองต์แบบมีไส้ เช่น ครัวซองต์ไส้บลูเบอร์รี, ครัวซองต์ไส้ราสป์เบอร์รี, ครัวซองต์ไส้แอปเปิล และครัวซองต์ไส้ช็อกโกแลต สามารถเก็บโดยการนำมาห่อแยกด้วยฟิล์มยืด (cling film) เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อของครัวซองต์แห้ง ควรนำไปเก็บในช่องฟรีซที่อุณหภูมิ -22 ถึง -26 องศา ประมาณ 1 ชม. เพื่อทำการฟรีซตัวไส้ จากนั้นให้เพิ่มอุณหภูมิช่องฟรีซเป็น -17 ถึง -18 องศาเพื่อทำการแช่เก็บตามปกติ เมื่อต้องการนำออกมาขายอีกครั้งให้นำมาอุ่นที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลา 10 นาที การเก็บครัวซองต์แบบมีไส้ด้วยวิธีนี้จะสามารถเก็บไว้ได้นานสุด 3-5 วัน
เคล็ดลับการเก็บบราวนี่
บราวนี่และเมนูอื่น ๆ ในตระกูลบราวนี่ เช่น บรูคกี้ บราวนี่ชีสสตรอว์เบอร์รี สามารถเก็บไว้ได้นานสูงสุดถึง 30 วัน หากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องจะสามารถเก็บได้นาน 1-3 วัน แต่หากนำไปห่อด้วยฟิล์มพลาสติกแล้วนำไปแช่ตู้เย็นจะอยู่ได้นาน 7 วันและหากเก็บรักษาโดยการนำไปแช่ในช่องฟรีซจะอยู่ได้นานถึง 1 เดือน เลยทีเดียว
เคล็ดลับการเก็บทาร์ต
เมนูทาร์ต เช่น ทาร์ตไข่ ทาร์ตอัลมอนด์หน้าสตรอว์เบอร์รี ทาร์ตคัสตาร์ดไข่กล้วยหอม ทาร์ตบลูเบอร์รี ทาร์ตมะนาวและชีสทาร์ตลาวา สามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 วันหากนำไปเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นช่องปกติ แต่ก่อนที่จะนำเข้าไปเก็บในตู้เย็น ควรหาภาชนะมาครอบปิดให้มิดชิด และต้องระวังไม่ให้มีไอน้ำมาเกาะ เพราะอาจทำให้ทาร์ตเสียรสชาติได้ และเมื่อต้องการนำออกมาขายอีกครั้งให้นำมาอุ่นร้อนอีกครั้ง ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาในการอุ่นประมาณ 2-4 นาที
เคล็ดลับการเก็บคุกกี้
หลากหลายเมนูคุกกี้ เช่น คุกกี้เนยสด เรดเวลเวท ถั่วแดง คริงเกิ้ล คุกกี้นิ่มฟักทองและคุกกี้เนยถั่ว สามารถทำได้โดยการนำไปใส่ไว้ในถุงซิปล็อก แล้วนำไปใส่ในกล่องพลาสติกที่ปิดสนิท หรือกล่องสุญญากาศ แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เนื่องจากในคุกกี้มีเนยเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งโดยธรรมชาติของเนยเมื่อผ่านการอบแล้ว อาจไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิหรือสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบบ้านเราได้เท่าที่ควร ดังนั้นหากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องปกติจะทำให้คุกกี้นิ่มและมีกลิ่นได้ง่าย จึงเหมาะที่จะนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นมากกว่านั่นเอง
นอกจากปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษาเบเกอรี่แล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวลไม่แพ้กันสำหรับผู้ประกอบการนั่นก็คือปัญหาในเรื่องของการเก็บรักษาวัตถุดิบเบเกอรี่นั่นเอง แต่วันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ ได้เตรียมเคล็ดลับและแนวทางการแก้ปัญหามาให้กับเหล่าผู้ประกอบการอย่างครบถ้วน นอกจากเคล็ดลับในการเก็บรักษาเบเกอรี่ให้สดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากเตาแล้ว หากผู้ประกอบการท่านไหนต้องการทราบเคล็ดลับดี ๆ ในการเก็บรักษาวัตถุดิบเบเกอรี่ก็สามารถตามไปอ่านได้ที่รวมวิธีเก็บรักษาวัตถุดิบและอุปกรณ์เบเกอรี่ แต่หากผู้ประกอบการท่านไหนที่กำลังมองหา หรือต้องการวัตถุดิบเบเกอรี่คุณภาพดีที่ต้องมีติดครัวเบเกอรี่ ก็สามารถตามไปช้อปออนไลน์ได้กับยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์เลย
วัตถุดิบเบเกอรี่คุณภาพดี
เคล็ดลับอื่นๆ สำหรับนักอบเบเกอรี่
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
- ฟรี หลักสูตรอบรมด้านธุรกิจอาหารและการทำอาหาร
- สูตรอาหารและเคล็ดลับที่ดีที่สุดจากเชฟทั่วโลก
- เทรนด์การทำอาหารล่าสุด