“รื่นเริง ครื้นเครง เพลงมันส์ เดินหาของกินกันตลอดงาน” เปิดตัวมาแบบนี้ รู้ได้ทันทีว่านี่คือบรรยากาศงานวัดที่หลายคนรอคอย ในช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงต้นปีใหม่ หลายจังหวัดมีการจัดงานประเพณีรื่นเริง เช่น ลอยกระทง การแข่งเรือยาว งานแสดงไฟประจำปี ซึ่งสิ่งที่มาคู่กันก็คือ งานวัด นั่นเอง จึงถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการเบเกอรี่ เพราะคนที่เดินงานวัด นอกจากคิดถึงกิจกรรมสนุกสนานแล้ว ต้องไม่พลาดแวะชิมแวะซื้อของอร่อย ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จึงนำไอเดียมาฝาก ใครอยากกระตุ้นยอดขายในงานวัด ตามไปอ่านได้เลย
อยากอัปยอดขายเบเกอรี่ ทำไมต้องที่งานวัด
หลายคนอาจสงสัยว่า เพราะอะไร งานวัดจึงเป็นพิกัดที่น่าสนใจในการกระตุ้นยอดขายเบเกอรี่ วันนี้เราไปหาคำตอบด้วยกัน
1. จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ถูกใจงานวัด
เนื่องจากงานวัดถือเป็นแหล่งรวมคนทุกเพศ ทุกวัย เพราะไลฟ์สไตล์ของคนไทยชอบความสนุกครื้นเครงอยู่แล้ว จึงมีโอกาสสูงที่จะกระตุ้นยอดขายเบเกอรี่ได้
2. เดินเที่ยวไม่พอต้องซื้อของกินด้วย
ไลฟ์สไตล์ของคนเดินงานวัด นอกจากต้องการดื่มด่ำกับบรรยากาศรื่นเริง แสงไฟสวย เครื่องเล่นหลากหลายแล้ว ต้องซื้อของกินติดไม้ติดมือไปด้วย โดยเฉพาะของกินที่ทานง่าย เดินไปกินไปได้ อย่างเบเกอรี่
3. บรรยากาศที่ดีของงานวัดมีส่วนกระตุ้นยอดขาย
มีงานวิจัยด้านการตลาดระบุว่า บรรยากาศต่าง ๆ ความครื้นเครง หรือแม้แต่เสียงเพลง ก็ช่วยให้คนอยากช้อป อยากซื้อมากขึ้น ซึ่งงานวัดมีครบทุกอย่าง
4. สามารถกระตุ้นยอดขายในระยะเวลาสั้น ๆ
งานวัดมักจัดในระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะจะช่วยดึงดูดความสนใจให้คนอยากไปเดิน
งานวัดมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเบเกอรี่มีโอกาสกระตุ้นยอดขาย รับกำไรแบบเน้น ๆ ได้
เทคนิคเรียกลูกค้าเข้าร้านเบเกอรี่ อยากขายดีในงานวัด ต้องรู้
อยากให้ร้านเบเกอรี่ขายดี มีกำไร ในงานวัด อย่าลืมนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้
1. เลือกทำเลทอง เป็นทำเลที่ติดกับไฮไลต์ หรือจุดกิจกรรมของงานวัด เช่น ใกล้จุดกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ติดเวทีศิลปินชื่อดัง ใกล้ทางออกไปที่จอดรถ เป็นต้น เพราะโอกาสที่ร้านเบเกอรี่ของเราจะเข้าตาลูกค้า มีมากกว่าร้านที่อยู่ห่างออกไป
2. แต่งร้านให้ดี ต้องมี 3 สิ่งนี้! “สดใส เล่นใหญ่ ไฟกะพริบ” สดใส หมายถึง โทนสีของร้านที่มีความโดดเด่นดึงดูดตา ไม่กลืนไปกับร้านอื่น เช่น หากร้านของเราขายขนมโป๊งเหน่งหมึกน้อย อาจจะแต่งด้วยสีเหลืองแดงของขนมก็ได้
- เล่นใหญ่ หมายถึง ลักษณะของเมนู หน้าตาเมนู หรือบรรจุภัณฑ์ มีความโดดเด่น อลังการ ลูกค้าสามารถนำไปถ่ายลงโซเชียลได้ ตลอดจนป้ายร้านที่ไม่ว่าเดินมาจากทางไหนก็มองเห็นอยู่ดี
- ไฟกะพริบ หมายถึง การติดไฟให้สว่างไสว เพราะนอกจากจะสร้างความโดดเด่นแล้ว แสงไฟยังช่วยส่องให้เห็นเบเกอรี่ ทำให้สีสันดูน่ากินขึ้น
3. ทำเบเกอรี่ให้เห็นกันสด ๆ ร้านที่มีการทำเบเกอรี่ให้เห็นต่อหน้า จะเรียกสายตาจากลูกค้าได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทอดในน้ำมันเดือดปุด ๆ การตกแต่งหน้าเบเกอรี่อย่างปราณีตสวยงาม และความสดใหม่น่ารับประทาน จะทำให้คนมองเกิดความประทับใจโดยไม่รู้ตัว และสุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องก้าวเข้ามาซื้อ
4. เทคนิคต่อแถว รับบัตรคิว บางคนอาจเข้าใจว่า ถ้าร้านคนเยอะ ลูกค้าคงไม่อยากไปยืนรอซื้อ แต่อีกมุมหนึ่ง การที่เห็นคนต่อคิวเยอะ ยิ่งมีบัตรคิว จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความอร่อยทั้งที่ยังไม่ได้ชิม รวมทั้งความฮอตฮิตของร้าน ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ อยากลิ้มลอง
5. เลือกเบเกอรี่ที่ทำง่าย เมนูเบเกอรี่ที่ขายตามงานวัดควรเป็นเมนูทำง่าย ใช้เวลาน้อย เน้นขายได้ในปริมาณที่เยอะ ทำเสิร์ฟลูกค้าได้ไว และควรเป็นเมนูที่กินง่าย ลูกค้าสามารถเดินกินได้สะดวก
6. มีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม คนเดินงานวัด มีกิจกรรมให้สนใจมากมาย ทั้งการเล่นเกม เล่นเครื่องเล่น เดินซื้อของ ดังนั้น ของกินที่ตอบโจทย์จึงต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม สะอาด อาจมีช้อนส้อม หรือทิชชู่เตรียมไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าถือกินได้ ไม่หกเลอะเทอะ ซึ่งจะได้ใจลูกค้ามากขึ้นแน่นอน
7. ราคาดี มีโปรเสิร์ฟ ไลฟ์สไตล์ของคนที่เดินงานวัด มักมองหาของกินราคาไม่แพง เพื่อที่จะซื้อชิมได้หลายเมนู การตั้งราคาจึงไม่ควรสูงเกินไป หรืออาจจัดโปรโมชันพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายด้วยก็ได้ เพราะร้านที่ขายราคาไม่แพง แถมยังมีโปรโมชันดี ๆ แม้ลูกค้าจะยังไม่เคยกินมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะซื้อมากกว่า ยิ่งถ้ารสชาติอร่อยด้วยแล้วล่ะก็ รับรองว่าขายดีตลอดงาน สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่แน่ใจว่าควรตั้งราคาเบเกอรี่อย่างไร สามารถศึกษาได้ที่ เทคนิคการตั้งราคาเบเกอรี่
ขายเบเกอรี่อะไรในงานวัด ถึงมัดใจลูกค้าได้
ไอเดียเมนูเบเกอรี่สำหรับทำขายในงานวัด เน้นทำง่าย ขั้นตอนไม่ซับซ้อน ได้แก่
1. ขนมโป๊งเหน่งหมึกน้อยซอสมาโยต้มยำ ขนมยอดฮิตตลอดกาล ใครเดินงานวัดต้องหาซื้อมากิน หน้าตาคล้ายหมึกน้อย อัปความอร่อยด้วยซอสดิป ต้นทุนเพียง 5 บาทต่อชิ้น
2. เครปม้วนสาหร่ายไข่หวานมายองเนส เปลี่ยนลุคเครปให้หน้าตาแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร แถมทำตามได้ง่าย ต้นทุนเพียง 11 บาทต่อชิ้น
3. ขนมปังอบไข่นกกระทาปูอัด หรือ ปังอบไข่จิ๋วปูอัด เมนูมัดใจน้อง ๆ หนู ๆ ถึงไข่จะจิ๋ว แต่กำไรไม่จิ๋วนะ ต้นทุนเพียง 10 บาทต่อชิ้น
4. ขนมปังหมูหยองมายองเนส เมนูถูกปากคนไทย ด้วยวัตถุดิบที่แสนคุ้นเคยอย่าง หมูหยองและมายองเนส กลมกล่อม ทำง่าย ต้นทุนไม่สูง
5. ขนมโตเกียวไส้ชีสทอดราดซอสพิซซ่ามายองเนส ไม่ใช่โตเกียวธรรมดา แต่เป็นโตเกียวไส้ชีสสติกทอด ราดด้วย ซอสพิซซ่า ตราคนอร์ ผสมกับ สวีท เบเกอรี่ มายองเนส ตราเบสท์ฟู้ดส์ วิธีทำง่าย ใช้ต้นทุนเพียงแค่ 11 บาทต่อชิ้น
6. ขนมโตเกียวไส้ปูอัดซอสมายองเนสมันปู เมนูนี้มีจุดขายและความแปลกใหม่คือ มายองเนสมันปู ซึ่งทำเองได้ง่าย ต้นทุนต่ำ เพียง 9 บาทต่อชิ้น
7. ทาโกะยากิ ของว่างยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่ขายดีสุด ๆ ในงานวัดแบบไทย เป็นเมนูขวัญใจทุกคน ต้นทุนเพียง 4 บาทต่อลูก
8. ครีมฮอร์นรสผลไม้ 3 ไส้ 3 สไตล์ เสิร์ฟความอร่อยด้วยครีมฮอร์นรสบลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และคัสตาร์ดใบเตย สีพาสเทลละมุน เนื้อครีมนุ่มหอมหวาน ต้นทุนชิ้นละ 12 บาท
9. มินิกระทงพิซซ่า ขนมปังรูปทรงกระทงไซซ์มินิ มี 2 ไส้ คือ พิซซ่าไส้กรอกชีส และ ปูอัดครีมซอส ทำง่าย แถมดีไซน์น่ารัก เหมาะจะขายในช่วงเทศกาลมาก ๆ
10. กระทงพิซซ่าหน้าไข่เยิ้ม รูปร่างคล้ายกระทงจิ๋ว ทำง่าย รสชาติเข้มข้นถึงใจ อร่อยฟินจนตัวลอย ต้นทุน 26 บาทต่อชิ้น
11. พิซซ่าบอลลาวา เมนูชีสยืดสะใจ กรอบนอก นุ่มใน กัดทีไส้ทะลัก ต้นทุน 8 บาทต่อชิ้น
12. แซนด์วิชหมูยอซอสศรีราชามาโย ขนมปังประกบหมูยอหั่นเต๋า อัปความอร่อยด้วย ซอสศรีราชามายองเนส ไซซ์ใหญ่อลังการ แต่ต้นทุนเพียง 17 บาทต่อชิ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเมนูเบเกอรี่ที่เหมาะจะทำขายในงานวัด ใครที่รู้สึกว่ายังไม่จุใจ อยากได้เมนูเพิ่ม สามารถเข้าไปเลือกได้ที่ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ ที่สำคัญ นอกจากไอเดียและเทคนิคดี ๆ ที่เรานำมาฝากแล้ว อย่าลืมเลือกใช้ วัตถุดิบเบเกอรี่ คุณภาพดี สำหรับครีเอตเมนูอร่อยด้วย เตรียมตัวพร้อมขนาดนี้ รับรองงานวัดช่วงปลายปี ร้านเบเกอรี่ของคุณปังแน่นอน
