จากวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจในทุก ๆ สาย ต่างก็ได้รับผลกระทบหนักเบาแตกต่างกันไป โดยเฉพาะธุรกิจในสายอาหาร ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง หลายร้านต้องปรับขนาดธุรกิจให้เล็กลง หลายร้านจำเป็นต้องทำการปิดตัวลง อัตราคนตกงานพุ่งสูงขึ้น แต่ทว่าฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเสมอ เมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง ปัญหาต่าง ๆ ถูกปลดล็อก ธุรกิจสายอาหารจึงค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น ผู้คนที่เคยตกงาน ต่างหันมาประกอบธุรกิจขายอาหาร ทั้งในขนาดเล็ก และขนาดกลางเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีการเปิดพื้นที่รองรับผู้ประกอบการกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ที่ว่านี้จะเป็นที่ไหน แหล่งค้าขายรูปแบบใด วันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชันส์ มีคำตอบ!
สืบเสาะ เจาะที่มาเทรนด์ Food Hall
ปัจจุบันเทรนด์ Food Hall เติบโตอย่างมากในประเทศแถบตะวันตก เช่น ในยุโรป และแนวโน้มนี้เริ่มขยายมายังตลาดเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย หากจะพูดให้เข้าใจได้ง่าย ๆ Food Hall ก็คือตลาดนัดหรือถนนคนเดิน ที่เราต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นเอง ซึ่งก็จะรวมของกินไว้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม เบเกอรี่ ของทานเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในไทยมีทั้งตลาดนัดที่เปิดทั้งในอาคาร และนอกอาคาร
สำหรับเทรนด์ Food Hall ไม่ได้นิยมกันแค่ในไทยเท่านั้น แต่เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมกันทั่วโลก เนื่องจากในช่วงกว่า 2 ปีที่เกิดปัญหาโรคระบาด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลให้ร้านอาหารโดยส่วนใหญ่ต้องปิดตัว ผู้คนต้องตกงาน ทำให้หลายคนหันไปเปิดร้านอาหารขนาดเล็ก ขณะเดียวกันร้านอาหารขนาดใหญ่ ก็ต้องปรับตัวมาเปิดร้านขนาดเล็กแทน เพื่อความคล่องตัวในการให้บริการ Delivery ดังนั้นเมื่อปัญหาคลี่คลาย และผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ยังคงเปิดตัวอยู่ ก็ได้รวมตัวเปิดเป็น Food Hall ซึ่งภายใน Food Hall หรือตลาดนัด ประกอบด้วยร้านอาหารเล็ก ๆ มากมาย และมีที่นั่งรับประทานอาหารไว้คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้ซื้ออาหารจากร้านต่าง ๆ แล้วมานั่งรับประทาน ด้วยความหลากหลายของเมนูอาหาร ที่มีการนำมาวางขาย บวกกับการมีพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คนที่แวะมาใช้บริการ จึงทำให้เทรนด์ดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ควรเริ่มอย่างไร หากอยากนำเบเกอรี่ไปขายตาม Food Hall (ตลาดนัดของกิน)
สำหรับผู้ประกอบการทั้งสายเบเกอรี่ และสายอาหาร ที่อยากจะเข้าไปเปิดร้านขายสินค้าใน Food Hall หรือตามตลาดนัดของกินต่าง ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร จะเริ่มจากตรงไหน วันนี้เรามีคำตอบมาบอกต่อ
- เริ่มจากเลือกเมนูที่ต้องการจะขาย สำหรับการเลือกเมนูที่จะนำมาขายตาม Food Hall หรือตามตลาดนัดของกินต่าง ๆ ควรเริ่มขายจากเมนูที่ทานง่าย ใช้เวลาปรุงและเวลาทานไม่นาน และควรเป็นเมนูที่สามารถสั่งกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการ เน่าเสีย หรือเสียหายขณะขนส่ง เช่นเมนู บราวนี่, ขนมปังพิซซ่าห่อไส้กรอกชีส, แซนด์วิชไก่อะโวคาโด, เครปพิซซ่าหน้าผักสามสี, ขนมปังลาวา, พ็อกเกตแซนด์วิชลูกตาลชาไทย และ แพนเค้กเสียบไม้ เป็นต้น
- สร้างจุดเด่น และเพิ่มความแตกต่างให้กับร้าน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของตัวร้าน หรือเมนูอาหาร การตกแต่งร้านที่แตกต่างจากคนอื่น การตั้งชื่อร้านให้น่าสนใจแต่ต้องนึกออกทันทีว่าร้านขายอะไร สำหรับการตกแต่งร้านไม่ควรใช้งบประมาณมากจนเกินไป แต่ควรจะมีการจัดวางที่เป็นระเบียบ มีโลโก้ ชื่อร้าน และเมนูที่ชัดเจน บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์ของร้าน
- เลือกทำเลที่ใช่ เพิ่มยอดขายให้ร้าน การเลือกทำเลที่มีกลุ่มเป้าหมายสัญจรผ่านเป็นประจำและพนักงานจัดส่งสามารถเข้าถึงได้ง่ายจึงสำคัญมาก อาจจะเลือกขายในตลาดนัดที่อยู่ใกล้แหล่งออฟฟิศ ห้างร้าน หรือสถานศึกษา เป็นต้น
- ทำการตลาดเป็น เห็นกำไร ในปัจจุบันไม่ว่าจะขายแบบออนไลน์ ขายหน้าร้าน หรือการขายตาม Food Hall ก็ล้วนจำเป็นต้องทำการตลาดไม่ว่าจะการตลาดแบบพื้นฐานและออนไลน์ การทำการตลาดแบบพื้นฐาน อาจจะเริ่มตั้งแต่ กลยุทธ์การตั้งราคาและการส่งเสริมการขาย โดยการตั้งราคานั้นมีกลยุทธ์ที่ควรนำมาใช้ได้แก่ การตั้งราคาเชิงจิตวิทยา การตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 หรือการตั้งราคาให้ต่ำกว่าคู่แข่งเล็กน้อย เพื่อความได้เปรียบ สำหรับการส่งเสริมการขาย ลองใช้การลดราคาในกรณีที่ซื้อครบตามจำนวน เช่น ซื้อบราวนี่ ชิ้นละ 7 บาท ซื้อ 3 ชิ้นในราคา 20 บาท เป็นต้น หรืออาจจะลองทำการตลาดออนไลน์ ด้วยการสร้างเพจ Facebook พร้อมศึกษาการทำคอนเทนต์ และการขายของผ่าน Facebook ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การขายผ่านหน้าเพจ หรือขายใน Group ที่เกี่ยวข้องหรือ group ที่ร้านอยู่ในพื้นที่ เช่น รวมของอร่อยนนทบุรี, ของกินย่านห้วยขวาง และ Market Place ที่เราสามารถกดปุ่มสร้างรายการสินค้าใหม่ เพื่อโปรโมตร้านเราได้เลย
ข้อดีของการขายของตาม Food Hall
ค่าเช่าที่ถูก ทำให้ต้นทุนค่าที่ไม่สูงเกินไป จึงมีความคุ้มค่ากับรายได้ที่จะได้รับในแต่ละวัน
- ทำให้ผู้ประกอบการได้ทดลองค้าขายจริงโดย ไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับค่าเช่าที่หลายเดือน หรือค่าเซ้งที่ ทำให้มีโอกาสทดสอบตลาดได้ว่าสินค้าเราขายได้ไหม ก่อนไปเช่าที่แพง ๆ หรือลงทุนทำร้านขนาดใหญ่
- Food Hall หรือตลาดนัดของกินบางที่มีคนมาเดินซื้อของเยอะ โดยเฉพาะตลาดที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่มักจะมีการโปรโมต โฆษณาอยู่ตลอดจึงมั่นใจได้ว่าตลาดนั้น ๆ จะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของรองรับแน่นอน
- การขายของตาม Food Hall หรือตลาดนัดของกิน เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ที่สนใจอยากมีอาชีพ เพราะเป็นธุรกิจที่ทำได้ง่าย ใคร ๆ ก็สามารถออกไปขายได้
ข้อเสียของการขายของตาม Food Hall
- Food Hall หรือตลาดนัดของกิน ที่มีชื่อเสียงบางที่ มักจะมีคนอยากไปขายของเยอะ และทาง Food Hall มักจะไม่รับจองพื้นที่ ใช้รูปแบบการจัดการแบบใครไปก่อนก็ได้ที่ก่อน หรือบางตลาดก็ใช้วิธีจับสลาก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยากขายไปรอคิวเก้อได้
- ต้องตั้งแผง เก็บแผงทุกวัน ถ้าไปขายของโดยไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะลำบากในการขนย้ายแผงและสินค้าได้
- หากสภาพอากาศ ฝนฟ้าไม่เป็นใจ ก็อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ประกอบการ ในกรณีที่เป็น Food Hall หรือตลาดนัด แบบกลางแจ้ง
ปักหมุด Food Hall (ตลาดนัดของกิน) ยอดนิยม
- The One Ratchada เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 17.00 น. - 00.00 น.
The One Ratchada ตลาดนัดเปิดใหม่ที่มาแรงสุดๆ ณ ตอนนี้เลย! ตลาดนี้เดินทางง่ายอยู่ใกล้กับ MRT ศูนย์วัฒนธรรม มาที่นี่ที่เดียวจบครบทั้งมุมร้านอาหารอร่อย ๆ ที่มีให้เลือกทานแบบหลากหลายครบทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่ม หลากหลายรายการ
- JODD FAIRS เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 16.00 น. - 00.00 น.
JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์) ตลาดนัดกลางคืนย่านพระราม 9 เป็นงานแฟร์ที่รวบรวมทั้งแหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารไว้มากมาย!! แถมยังทำมาได้น่าเดิน บรรยากาศสุดชิลที่มีทั้งความวินเทจ ความเท่ และกลิ่นอายแบบยุโรป โดยแต่ละโซนจะแบ่งชัดเจน สามารถเดินได้แบบไม่แออัด ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งตลาดที่กำลังได้รับความสนใจทั้งจากผู้บริโภค และผู้ประกอบการ
- ตลาดเดินเล่น เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 12.00 น. - 22.30 น.
ตลาดเดินเล่นเป็นตลาดนัดกลางคืนฝั่งธนฯ เดินทางง่าย ๆ ห่างจาก BTS ตลาดพลูเพียง 90 เมตร เป็นอีกหนึ่งตลาดนัดที่ตอบโจทย์ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะสายของกินสุด ๆ
- ตลาดอินดี้ ดาวคะนอง เปิดบริการตามปกติ ทุกวัน 18.00 น. - 00.00 น.
ตลาดอินดี้ ดาวคะนอง เป็นอีกตลาดหนึ่งที่กำลังมาแรงไม่แพ้กันแถวย่านดาวคะนองกับตลาดอินดี้ (INDY Market) ตลาดที่เป็นที่เหล่าวัยรุ่นนิยมไปเช็กอินกัน เพราะนอกจากตลาดจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งเสื้อผ้าแล้วยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายให้เลือกทาน ผู้ประกอบการท่านไหน อยากลองไปขาย ขนม หรืออาหาร แนะนำให้ลองไปตั้งแผงที่ตลาดนี้เลย!
- ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ เปิดบริการทุกวัน พฤหัสฯ-อาทิตย์ 16.00 น. - 00.30 น.
ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ เป็นตลาดนัดกลางคืน ที่ได้รับความสนใจจากขาช้อป ไม่แพ้ที่อื่น ๆ เพราะมีสินค้าให้เลือกดู เลือกซื้อเยอะ และหลากหลาย ตลาดนี้เปิดมานานและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้น ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งทำเล ที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจอยากจะลองมาเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือเปิดร้านขายของกินตาม Food Hall หรือตลาดนัดของกิน
สำหรับผู้ประกอบการท่านไหน ที่เคยต้องปิดกิจการเนื่องจากเคยประสบปัญหาต่าง ๆ หรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาทำเล สำหรับเริ่มต้นทำธุรกิจ โดยไม่อยากทุ่มเงินก้อนใหญ่ ในการทำร้าน การออกไปหาเช่าที่ หรือเช่าแผงตาม Food Hall หรือตลาดนัดของกินต่าง ๆ ตามที่ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ได้นำเสนอไปนั้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ และเป็นอีกทางเลือกที่ค่อนข้างตอบโจทย์การเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็กในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ประกอบการที่มีทำเลดี ๆ ในการเปิดแผงขายของแล้ว แต่ยังไม่มีวัตถุดิบเบเกอรี่คุณภาพดีไว้ใช้ ก็สามารถตามไปช้อปวัตถุดิบเบเกอรี่ผ่านช่องทางออนไลน์กับยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ได้เลย
