ช็อกโกแลต เป็นของหวานที่ถือได้ว่าเป็นที่โปรดปรานของทั้งคนไทย และผู้คนทั่วโลก ทั้งนี้ช็อกโกแลตยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของเมนูเครื่องดื่ม และเบเกอรี่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น เค้ก คุกกี้ และพาย เป็นต้น ด้วยความที่ช็อกโกแลตเป็นหนึ่งในของหวานที่ผู้คนชื่นชอบกันทั่วโลก จึงได้มีการกำหนดให้วันที่ 7 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันช็อกโกแลตโลก ‘World Chocolate Day’ ซึ่งได้มีการระบุเอาไว้ว่า วันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1550 เป็นวันแรกที่มีการนำเอาช็อกโกแลตเข้ามาในทวีปยุโรป ชาวยุโรปจึงถือว่าวันที่ 7 กรกฎาคม เป็นวันช็อกโกแลตโลกนั่นเอง
แม้ว่าช็อกโกแลต จะเป็นของหวานขวัญใจผู้คนทั่วโลก แต่ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่เคยทราบกันว่าจริง ๆ แล้ว ‘ช็อกโกแลต’ เป็นผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน โดยแปรรูปมาจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก นั่นเอง
เปิดไทม์ไลน์ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตถูกค้นพบมาตั้งแต่สองพันปีที่แล้ว หลังสมัยพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ เป็นผลผลิตที่ได้จากเมล็ดของต้นโกโก้ (Cacao) ในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา ชนกลุ่มแรกที่รู้จักการทำช็อกโกแลตเป็นอารยธรรมโบราณที่อยู่ในเม็กซิโก และอเมริกากลาง ชนกลุ่มนี้ ได้แก่ ชาวมายา และชาวแอซเท็ก แห่งอารยธรรมเมโสอเมริกา คนเหล่านี้ เอาเมล็ดโกโก้มาบดแล้วผสมกับเครื่องปรุงหลายชนิดเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มที่มีรสขมเฝื่อน นอกจากใช้ประกอบอาหารแล้ว ช็อกโกแลตยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเชิงศาสนาและสังคมด้วย
ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 สเปนเป็นประเทศแรกที่ออกเดินทางแสวงหาความมั่งคั่งในทวีปอเมริกา และได้พบกับเครื่องดื่มที่มีรสชาติหอมละมุนของช็อกโกแลต หลังจากสเปนมีชัยเหนือชาวแอซเท็กแล้ว พวกเขาได้นำเอาช็อกโกแลตกลับประเทศด้วย และกลายเป็นที่นิยมชมชอบในราชสำนักอย่างรวดเร็ว ภายในช่วงเวลา 100 ปี ความหลงใหลที่มีต่อช็อกโกแลตก็ได้ขยายตัวลุกลามไปทั่วยุโรป
รู้หรือไม่ว่าช็อกโกแลตมีมากกว่าความอร่อย
ช็อกโกแลตของหวานสุดโปรดของหลาย ๆ คน นอกจากความอร่อยสุดฟินแล้ว ยังเต็มไปด้วยประโยชน์ดี ๆ อีกมากมายต่อร่างกาย เช่น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้หัวใจ ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การทานช็อกโกแลตเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน
ชวนมารู้จักกับช็อกโกแลตนานาชนิด
ในปัจจุบันช็อกโกแลตมีหลากหลายชนิด และมีรสชาติที่แตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างของรสชาติช็อกโกแลต อาจเกิดขึ้นจากปริมาณของส่วนผสม ระยะเวลา และอุณหภูมิของการคั่วเมล็ดโกโก้นั่นเอง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับช็อกโกแลตแต่ละชนิดกัน
- ช็อกโกแลตดำ (Dark Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบางครั้งก็ถูกเรียกเป็นช็อกโกแลตธรรมดา แต่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเป็นช็อกโกแลตหวาน และกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35% ช็อกโกแลตชนิดนี้ นิยมนำมาใช้ทำเมนูเค้กช็อกโกแลต นามะช็อกโกแลต และ บราวนีช็อกโกแลตฟรัจด์ เป็นต้น
- ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (Cocoa Butter) นม และยังเพิ่มความหวานลงไปด้วย ซึ่งช็อกโกแลตประเภทนี้ นิยมนำไปใช้ในการตกแต่งหน้าขนม หรือเบเกอรี่ต่าง ๆ
- ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (Unsweetened Chocolate) เป็นช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์ หรือ ช็อกโกแลตฝาด นิยมใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี, เค้ก, ลูกกวาด และคุกกี้ นั่นเอง
- ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (Semi - Sweet Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่อยู่ในรูปแบบของเหลว ถูกเพิ่มความหวานและมีการใส่เนยโกโก้ลงไปด้วย ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีสีเข้ม มีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติความหวานเพียงเล็กน้อย มักจะถูกนำมาใช้ผสมในเนื้อคุกกี้
- ช็อกโกแลตหวาน (Sweet Chocolate) ช็อกโกแลตชนิดนี้จะถูกเพิ่มความหวานลงไปมากกว่าช็อกโกแลตแบบกึ่งหวาน และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 15 % ขึ้นไป ซึ่งช็อกโกแลตชนิดนี้นิยมนำไปใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม ทั้งยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบกึ่งหวานอีกด้วย
- ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่ประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ทำให้มีกลิ่นหอม ซึ่งช็อกโกแลตชนิดนี้จะแตกหักง่าย และหากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชแทนการใช้เนยโกโก้ นั่นเองซึ่งช็อกโกแลตประเภทนี้ นิยมนำมาใช้ในการทำไส้เบเกอรี่ เคลือบเบเกอรี่ หรือใช้เป็นส่วนผสมในการทำเค้กชนิดต่าง ๆ
- ลิควิด ช็อกโกแลต (Liquid Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด คุณสมบัติพิเศษของช็อกโกแลตชนิดนี้ เป็นช็อกโกแลตที่ไม่ละลายจึงสะดวกในการนำมาใช้ ซึ่งช็อกโกแลตชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบนั่นเอง
- ช็อกโกแลตกูแวร์ตูร์ (Couverture Chocolate) เป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา และมีรสเผ็ด โดยปกติจะมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้สามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติแล้วจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะนำมาใช้สำหรับเคลือบภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตเอาไว้
- กานาช (Ganache Chocolate) เป็นช็อกโกแลตที่มีลักษณะข้นมาก นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต Ganache ทำโดยการหั่นช็อกโกแลตและใส่วิปปิ้งลงไปตีในครีมร้อน ๆ ผสมกันจนช็อกโกแลตละลายและส่วนผสมมีลักษณะข้นและแข็งขึ้น
- ช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบ (Confectionery Coating) ช็อกโกแลตนี้เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่าง ๆ
จากประเภทของช็อกโกแลตที่ได้พูดถึงไปในข้างต้น ทำให้ทราบได้ว่าช็อกโกแลตที่หลาย ๆ คนชื่นชอบนั้น มีอยู่มากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีรสชาติ ส่วนผสม และวิธีใช้ที่แตกต่างกันไป สำหรับผู้ประกอบการเบเกอรี่ท่านไหน ที่กำลังจะเลือกใช้ช็อกโกแลตมาเป็นส่วนผสมในเมนูเบเกอรี่ ก็อย่าลืมนำข้อมูลที่เรานำมาฝากไปใช้ประกอบการตัดสินใจกันด้วยล่ะ เพราะการเลือกใช้ช็อกโกแลตให้ถูกชนิดก็ย่อมส่งผลดีต่อรสชาติ และรูปลักษณ์ของเมนูเบเกอรี่แต่ละเมนูด้วยช่วยกัน
รวมสูตรช็อกโกแลตเบเกอรี่สุดปังต้อนรับวันช็อกโกแลตโลก
อย่างที่เราได้เกริ่นนำเอาไว้ในข้างต้น ว่าช็อกโกแลตถือเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเมนูเครื่องดื่ม หรือเมนูเบเกอรี่ต่าง ๆ วันนี้ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จึงได้รวบรวมสูตรเบเกอรี่ที่มีช็อกโกแลตเป็นส่วนประกอบมาฝากกลุ่มผู้ประกอบการเบเกอรี่ ได้นำไปทำขายเป็นเมนูต้อนรับวันช็อกโกแลตโลก หรือนำไปทำขายเป็นเมนูใหม่ของทางร้าน เพื่อใช้เพิ่มยอดขายในระยะยาว ซึ่งเมนูที่เราได้นำมาฝากวันนี้มีทั้งหมด 4 เมนู ได้แก่
- ช็อกโกแลตมูส เป็นเมนูเบเกอรี่ที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น และถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่สุดพรีเมียม แต่มีขั้นตอนการทำที่ค่อนข้างง่ายและไม่ซับซ้อน ทั้งยังใช้ต้นทุนในการทำไม่สูง จึงถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ผู้ประกอบการควรนำไปทำขาย เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับร้านเบเกอรี่เป็นอย่างยิ่ง
- ช็อกโกแลตคัพเค้กลาวา เมนูคัพเค้กถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะคัพเค้กช็อกโกแลต เนื่องจากเป็นเมนูที่มีรสชาติที่หวานกลมกล่อม และด้วยลักษณะเป็นคัพ จึงทำให้เสามารถทานได้สะดวก ทั้งยังมีรูปแบบการตกแต่งที่สวยงามและน่าทาน โดยเฉพาะการใส่ลูกเล่นใหม่ ๆ อย่างลาวา หรือไส้ช็อกโกแลตเยิ้ม ๆ เข้าไปในตัวคัพเค้ก และยิ่งเพิ่มความอร่อยละมุนให้กับเค้กได้อย่างลงตัว
- ช็อกโกแลตนามะ หรือช็อกโกแลตสด เป็นเมนูเบเกอรี่ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่ที่ผู้คนชื่นชอบ เพราะได้ลิ้มรสชาติของช็อกโกแลตแท้ ๆ มีรสหวานกำลังดีไม่เลี่ยนจนเกินไป ทั้งยังให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้น ละลายในปาก จึงไม่แปลกเลยที่เบเกอรี่ชนิดนี้จะสามารถครองใจชาวช็อกโกแลตเลิฟเวอร์ได้เป็นอย่างดี และเหตุผลที่เรานำเมนูนี้มาแนะนำให้กับเหล่าผู้ประกอบการได้ลองทำตาม ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของรสชาติและความอร่อยเท่านั้น แต่เมนูนี้ยังมีขั้นตอนการทำที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ทั้งยังใช้เวลาในการทำไม่นานอีกด้วย
- เค้กช็อกโกแลต อีกหนึ่งเมนูสุดคลาสสิกที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นก็คือเมนูเค้กช็อกโกแลต เบเกอรี่ที่ครองใจคนไทย และคนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งส่วนผสมที่เป็นไฮไลท์เด็ดของเมนูนี้ก็คือ ผงโกโก้ และดาร์กช็อกโกแลต เป็นเบเกอที่มักจะถูกนำมาใช้ในการเฉลิมฉลองต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เค้กช็อกโกแลต อาจจะเป็นเมนูที่มีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน และต้องใช้ทักษะในการทำมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับเมนูที่เราได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ แต่เพื่อให้สะดวกกับเหล่าผู้ประกอบการเบเกอรี่ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ จึงมีสูตรเค้กช็อกโกแลตที่ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนมาฝาก คลิกที่ชื่อสูตรเลย
สำหรับเมนูเบเกอรี่ช็อกโกแลตที่เรานำมาฝากในวันนี้ เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนไทยและทั่วโลก เป็นเมนูที่อร่อยทำง่ายและใช้ต้นทุนน้อย เหมาะกับการนำไปทำขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับร้านเบเกอรี่เป็นอย่างยิ่ง แต่การจะทำเบเกอรี่ให้ออกมาอร่อยและมีรสชาติที่ถูกปากถูกใจลูกค้า เราจำเป็นจะต้องใช้วัตถุดิบเบเกอรี่ที่มีคุณภาพเสียก่อน ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ ขอแนะนำแหล่งวัตถุดิบเบเกอรี่คุณภาพดี ให้เหล่าผู้ประกอบการได้ตามไปเลือกซื้อกัน รับรองว่าที่เดียวจบ ครบทุกวัตถุดิบเบเกอรี่
