ถอดสูตรความสำเร็จ ขายแซนวิชยังไงให้ขายดี ยอดขายพุ่ง
ขายแซนด์วิชยังไงให้ยอดขายพุ่งไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ตามมาดูกันเลย
แซนด์วิช เป็นอีกหนึ่งเบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในวัยเรียน และวัยทำงาน เนื่องจากแซนด์วิชเป็นเบเกอรี่ที่ทานง่าย ได้ประโยชน์ แถมมีคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะกับการทานในมื้อเช้า หรือทานเป็นของรองท้องในช่วงเวลาเร่งด่วน จึงมิใช่เรื่องแปลกที่แซนด์วิชยังคงได้รับความนิยมทั้งในหมู่ผู้บริโภค อีกทั้งยังเป็นเมนูยอดนิยมที่กลุ่มผู้ประกอบการอาหารและเบเกอรี่นิยมนำมาทำขายเป็นเมนูสร้างรายได้ ดังนั้น วันนี้ ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่่นส์ จึงจะมาถอดสูตรความสำเร็จ ในการขายแซนด์วิช ว่าขายยังไงถึงจะขายดีและมียอดขายพุ่ง
รู้จักลูกค้าดี มีชัยไปเกินครึ่ง
การรู้ถึงความชอบ ความต้องการของลูกค้าจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างสรรค์เมนูเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ง่ายขึ้น เช่น เมื่อรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนที่รักสุขภาพ ก็อาจจะสร้างสรรค์เมนูแซนด์วิชที่มีประโยชน์และเป็นมิตรต่อสุขภาพ หรือถ้าหากรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักชอบรสชาติจัดจ้าน ก็อาจจะสร้างสรรค์เมนูแซนด์วิชแบบฟิวชัน เช่น แซนด์วิชซอสต้มยำ แซนด์วิชหมูย่างจิ้มแจ่ว เป็นต้น
ตามทันทุกกระแส มีแต่ได้กับได้
คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การขายสินค้าตามเทรนด์ หรือตามกระแสต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมในสังคม ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จในการค้าขาย โดยเฉพาะเมนูเบเกอรี่อย่างแซนด์วิช ที่สามารถโยงเข้ากับกระแส หรือ เทรนด์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
1 เทรนด์แซนด์วิช เพื่อสุขภาพ
ดังที่ทราบกันดีว่า ภายหลังจากการประสบกับปัญหาโรคระบาด และมลภาวะต่าง ๆ ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลสุขภาพมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะในด้านของอาหารการกิน ดังนั้นผู้ประกอบการ จึงควรพลิกแพลง หรือดัดแปลงเมนูแซนด์วิชให้ตอบโจทย์กับกระแสดังกล่าว เช่นอาจจะเพิ่มไอเดียเมนูแซนด์วิชให้เป็นมิตรกับสุขภาพมากขึ้น เช่น อาจจะเลือกใช้เป็นผักออร์แกนิกในการทำ เลือกใช้ขนมปังไม่ขัดสี หรือเลือกใช้โปรตีนทางเลือกแทนเนื้อสัตว์ เป็นต้น
2 เทรนด์แซนด์วิชไบต์ไซส์
หรือการทำแซนด์วิชไซส์มินิ แบบพอดีคำ ให้ผู้บริโภครู้สึกสะดวกในการทาน เนื่องจากในยุคปัจจุบันผู้คนมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างเร่งรีบ และต้องการความสะดวกในชีวิตมากขึ้น ดังนั้นจะดีไม่น้อย หากเมนูเบเกอรี่อย่างแซนด์วิชที่เป็นเมนูที่ทานง่ายอยู่แล้ว จะถูกปรับปรุง และดัดแปลงให้ทานง่าย พกพาสะดวกมากยิ่งขึ้นไปอีก
3 เทรนด์แซนด์วิชไส้ทะลัก
อาหารไส้ทะลัก เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกได้ถึงความคุ้มค่า และทำให้อิ่มท้องได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งอาหารจานหลัก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ประกอบการที่อยากจะนำเทรนด์นี้มาปรับใช้ในการทำแซนด์วิชขาย ควรพิจารณาเลือกใช้วัตถุดิบ หรือเลือกไส้ที่ต้นทุนไม่ได้สูงมาก และสามารถทำขายได้ในราคาที่กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึง เพราะการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีราคาสูงมาใช้ทำแซนด์วิชไส้ทะลัก อาจจะทำให้ผู้ประกอบการได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หรือยิ่งไปกว่านั้น อาจจะทำให้ประสบปัญหาขาดทุนก็เป็นได้
ใส่ใจกับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำแซนวิชขาย
การที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจ จนมีรายได้พุ่ง นอกจากรสชาติที่ดีแล้ว วัตถุดิบที่นำมาใช้ก็ควรเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ผัก เนื้อสัตว์ หรือโปรตีนชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะซอส หรือมายองเนสก็ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพ และมีรสชาติเข้มข้น เนื่องจากซอส และมายองเนสคือวัตถุดิบหลักในการเพิ่มรสชาติให้กับแซนด์วิช สำหรับซอส และมายองเนสที่เราอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้ คือ ซอสพิซซ่า ตราคนอร์, สวีท เบเกอรี่ มายองเนส ตราเบสท์ฟู้ดส์ และ เอสอี เบเกอรี่ มายองเนส ตราเบสท์ฟู้ดส์
เลือกทำเลดีเพื่อขายแซนวิช มีรายได้เพิ่ม
นอกจากความหลากหลายของไส้ สีสัน และหน้าตาที่ดึงดูดของเมนูแซนด์วิชแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้แซนด์วิชขายดีมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ทำเล หรือพื้นที่ในการขายแซนด์วิชนั่นเอง สำหรับปัจจัยสำคัญในการใช้พิจารณาเลือกเช่าที่สำหรับขายแซนด์วิช จำเป็นต้องประกอบไปด้วย
1 ราคาค่าเช่าที่
ค่าเช่าร้าน หรือค่าเช่าที่ในการขายแซนด์วิช ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในต้นทุนที่ผู้ประกอบการไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อย่างไรก็ตามหากจำเป็นต้องทำการเช่าที่สำหรับขาย สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้นั่นก็คือ ราคาค่าเช่าที่ ควรอยู่ประมาณ 15 -18% ของยอดขาย เช่น ถ้ามียอดขายประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ค่าเช่าควรอยู่ที่ประมาณ 7,500 – 9,000 บาท ต่อเดือน จึงจะไม่ทำให้ผู้ประกอบการต้องประสบกับภาวะขาดทุน แม้ว่าเราจะขายดิบขายเป็นเทน้ำเทท่า แต่ถ้าหากว่าค่าเช่า ไม่คุ้มค่ากับรายได้ที่รับมา ก็จะส่งผลเสียมากกว่าผลดี และที่สำคัญต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ทำเลที่ดีย่อมสร้างรายได้ให้กับเรา แม้จะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่ก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เราลงทุนไป เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกทำเล หรือตัดสินใจเช่าที่ผู้ประกอบการควรคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ
2 ความสะดวกของตัวผู้ประกอบการเอง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องนำมาพิจารณาในการเลือกทำเล หรือตัดสินใจเช่าที่ นั่นก็คือความสะดวกของตัวผู้ประกอบการเองนั่นเอง กล่าวคือต้องดูว่ามีความเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ โดยเฉพาะสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ ที่จอดรถ รวมถึงความใกล้และไกลของพื้นที่เปิดร้านกับที่พักอาศัย ตลอดจนกฎระเบียบและเงื่อนไขต่าง ๆ ของพื้นที่นั้น ๆ ว่าเราสามารถยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อที่เราจะได้ไม่อึดอัดใจกับเจ้าของพื้นที่ให้เช่า
3 คู่แข่งโดยรอบ
ต้องทำการสำรวจทำเลแถวนั้นให้ดีเสียก่อน ลองสังเกตการณ์ดูว่าเขาขายอะไรกันบ้าง สินค้าประเภทเดียวกับของเรามีมากน้อยแค่ไหน ราคาใกล้เคียงกันหรือเปล่า จากนั้นก็มาวิเคราะห์ว่า เราควรเลือกทำเลนี้หรือไม่ แต่ถ้ามีคู่แข่งจำนวนมาก แต่เรามั่นใจในฝีมือของเรา ประกอบกับเรามั่นใจว่า สินค้าของเราถูกและดี มีความแตกต่าง การมีคู่แข่งมากหรือน้อยก็ไม่ถือเป็นปัญหาสำคัญ
4 กลุ่มเป้าหมาย
การเลือกทำเลเปิดร้านสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้บริการในร้านของเรา ดังนั้น หากคิดจะไปเปิดร้านในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ต้องลงสำรวจพื้นที่ให้แน่ชัดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราเป็นใคร เช่น ถ้าจะขายแซนด์วิชเพื่อสุขภาพ ก็ต้องลองพิจารณาดูว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนวัยไหน หากกลุ่มคนแถวนั้นเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน วัยกลางคน ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ หรือให้ความสำคัญกับอาหารการกิน ก็อาจจะถือว่าทำเลตรงนั้นมีความเหมาะสมกับสิ่งที่ต้องการจะขาย เป็นต้น สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักที่นิยมบริโภคแซนด์วิชคือกลุ่มคนวัยเรียน และวัยทำงาน ดังนั้นทำเลที่เหมาะสมในการขายแซนด์วิชก็ควรจะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนเหล่านี้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นเช่น
- โรงเรียน การขายแซนด์วิชหน้าโรงเรียน เป็นการเจาะกลุ่มตลาดผู้บริโภควัยเรียน วัยเด็กได้เป็นอย่างดี แต่การขายหน้าโรงเรียน หนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องราคา คือราคาที่ขายไม่ควรตั้งสูงจนเกินไป และเมนูแซนด์วิชที่เหมาะกับการทำขายหน้าโรงเรียน ก็ควรเป็นเมนูที่ เน้นโปรตีนเป็นหลัก และอาจจะมีผักเป็นส่วนประกอบได้บ้างเล็กน้อย เช่น แซนด์วิชทอดไส้ฮาวายเอี้ยน, พ็อกเกตแซนด์วิชลูกตาลชาไทย, แซนด์วิชโดนัททอดแฮม-ชีส, แซนด์วิชไส้ซอสพิซซ่าฟักทองผัดไข่, แซนด์วิชหมูหย็องมายองเนส, แซนด์วิชปูอัด, และแซนด์วิชโบราณ เป็นต้น
- แหล่งขายของใกล้ออฟฟิศ นอกจากวัยเด็ก วัยเรียนแล้ว กลุ่มคนวัยทำงานก็เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่นิยมบริโภคแซนด์วิชเช่นกัน การขายแซนด์วิชในแหล่งขายของใกล้ออฟฟิศ อาจไม่ต้องจำกัดขอบเขตของราคาเท่ากับการขายหน้าโรงเรียน เนื่องจากกำลังซื้อของคนวัยทำงานย่อมมีมากกว่าวัยเรียน แต่วัตถุดิบ และปริมาณของแซนด์วิชก็จำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน สำหรับเมนูแซนด์วิชที่เหมาะกับการทำขายกลุ่มคนวัยทำงานในแหล่งออฟฟิศ ควรจะเป็นแซนด์วิชที่ทานง่าย อิ่มท้อง มีสารอาหารครบถ้วน และหากจะให้ดีควรหลีกเลี่ยงเมนูแซนด์วิชแบบเดิม ๆ ควรเพิ่มไอเดียและสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ เพื่อเป็นการดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มนี้เช่น แซนด์วิชมิโซะต้มยำห่มผ้า, แซนด์วิชไก่จิ้มแจ่วมาโย, แซนด์วิชสลัดทูน่า, แซนด์วิชเบคอนกิมจิ, แซนด์วิชไข่สไตล์เกาหลี, แซนด์วิชหมูย่าง เป็นต้น
- พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทำเลทองของในการขายแซนด์วิช เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่คนพลุกพล่าน และใช้ในการสัญจร เดินทางไปมา โดยเฉพาะช่วงเช้า ดังนั้นหากจะขายแซนด์วิชให้รายได้พุ่งแนะนำให้ลองไปขายบริเวณพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าในช่วงเช้า และสำหรับเมนูแซนด์วิชที่เหมาะจะนำไปขายบริเวณสถานีรถไฟฟ้า ต้องเป็นเมนูแซนด์วิชที่ทำง่าย ทานง่าย อย่างเช่น แซนด์วิชหมูหย็องน้ำพริกเผา แซนด์วิชปูอัดมายองเนส, แซนด์วิชแฮมชีส, แซนด์วิชทูน่ามายองเนส, แซนด์วิชไข่ต้ม, แซนด์วิชคอร์นชีส และแซนด์วิชไข่คน เป็นต้น
- สวนสาธารณะ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม หากอยากขายแซนด์วิชให้รายได้พุ่ง เนื่องจากสวนสาธารณะเป็นพื้นที่ที่ผู้คนนิยมแวะมาพักผ่อนหย่อนใจ และนิยมแวะมาออกกำลังกาย จึงเป็นไปได้ที่กลุ่มลูกค้าที่ได้จากที่นี่อาจจะเป็นลูกค้าสายรักสุขภาพ หรือกลุ่มคนที่ดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญกับอาหารการกินมากเป็นพิเศษ ดังนั้นเมนูแซนด์วิชที่เหมาะจะนำมาขายที่สวนสาธารณะจึงควรจะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เช่น แซนด์วิชอกไก่ย่าง, แซนด์วิชหมูยอ ซอสศรีราชามาโย, แซนด์วิชอกไก่ฉีกแตงกวาดอง, แซนด์วิชไก่ อะโวคาโด, แซนด์วิชแซลมอนรมควัน, แซนด์วิชโรลผักรวม และ แซนด์วิชขนมปังไร้แป้งไส้สลัดผักไข่คน เป็นต้น
คำนวณต้นทุนเป็นเห็นกำไร
นอกจากการเลือกทำเล และเมนูที่เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถขายแซนด์วิชให้รายได้พุ่ง และได้กำไรตามที่ต้องการ นั่นก็คือการรู้จักคำนวณต้นทุนในการทำแซนด์วิช ก่อนที่จะตั้งราคาขายให้เหมาะสมกับต้นทุน หากผู้ประกอบการท่านไหนต้องการศึกษาวิธีการคำนวณต้นทุนในการตั้งราคาขายแซนด์วิช ก็สามารถตามไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความ 3 เทคนิคการตั้งราคาเบเกอรี่ เพิ่มกำไร ไม่ให้ขาดทุน รับรองว่าเป็นวิธีการคำนวณต้นทุนที่สามารถทำได้ง่าย ๆ และผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงอย่างแน่นอน
ถึงแม้แซนด์วิชจะเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในการรับประทาน และมีผู้ประกอบการนิยมทำขายกันเยอะ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ เพราะแต่ละร้านย่อมมีองค์ประกอบ และปัจจัยต่าง ๆ มากน้อยแตกต่างกัน แต่ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดส์ โซลูชั่นส์ เชื่อมั่นเสมอว่าหากผู้ประกอบการมีความตั้งใจ และมีความใส่ใจต่อผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้า รู้จักศึกษาความชอบ ความต้องการของลูกค้า เลือกทำเลที่ขายได้ถูกต้อง โดยเฉพาะเลือกใช้วัตถุดิบเบเกอรี่คุณภาพดี ในการทำ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายแซนด์วิชอย่างแน่นอน
วัตถุดิบคุณภาพสำหรับทำแซนวิชขาย
เคล็ดลับอื่นๆ สำหรับคนเบเกอรี่
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
- ฟรี หลักสูตรอบรมด้านธุรกิจอาหารและการทำอาหาร
- สูตรอาหารและเคล็ดลับที่ดีที่สุดจากเชฟทั่วโลก
- เทรนด์การทำอาหารล่าสุด