7 ความท้าทายและวิธีการแก้ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหาร

เรามาดูความท้าทายและการแก้ปัญหาความปลอดภัยด้านอาหารที่เชฟมืออาชีพทั่วโลกใช้กัน เพราะความปลอดภัยด้านอาหารมีความสำคัญ ทำให้ร้านคุณอยู่รอดต่อไปได้ อย่างไรก็ตามเราเข้าใจดีว่า ความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) เป็นหนึ่งในความท้าทายของธุรกิจร้านอาหารอย่างแน่นอน ตามยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ไปดูกันเลยว่าความท้าทายเรื่องความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ที่เจ้าของธุรกิจต้องเจอมีอะไรบ้าง พร้อมบอกเคล็ดลับการแก้ปัญหาให้ผู้ประกอบการด้านธุรกิจร้านอาหารสามารถนำไปปรับใช้กับร้านคุณได้

ความท้าทายที่ 1: เวลาและการลงทุน

การฝึกอบรมพนักงานและซื้ออุปกรณ์ครัวเพิ่มเติม ถือเป็นความท้าทายของร้านอาหาร เพราะทำให้ร้านมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

วิธีแก้ไข: แนะนำให้เจ้าของร้านอย่าประหยัดเงินที่จะลงทุนไปกับการฝึกอบรมพนักงานและการซื้ออุปกรณ์ในครัว เพราะสิ่งเหล่านี้มีประโยชน์มาก ๆ ในระยะยาว หากขาดสิ่งนี้ไปจะทำให้สุขอนามัยของพนักงานไม่ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งการใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม จะทำให้คุณเสียเงินไปกับต้นทุนพนักงานมากกว่าเวลาและการจ่ายค่าฝึกอบรมและการซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมเสียอีก

ความท้าทายที่ 2: ภาษาและวัฒนธรรม

พนักงานของคุณอาจจะมาจากหลายประเทศและวัฒนธรรม ที่มีความแตกต่างกันระหว่างมาตรฐานในการจัดการอาหาร

วิธีแก้ไข: หัวหน้าเชฟต้องมีการกำหนดกฎระเบียบ มีการใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ที่เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อให้อาหารทุกจานที่เสิร์ฟได้มาตรฐานและปลอดภัย ควรมีการจัดอบรมหรือหาเวลามาทำความเข้าใจข้อกำหนดต่าง ๆ ให้ชัดเจน และเข้าใจตรงกัน

ความท้าทายที่ 3: การศึกษา และความสามารถในการอ่านเขียน

พนักงานครัวของคุณอาจมีระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน และอาจจะไม่เข้าใจสาเหตุและผลของการกระทำเมื่อได้ทำผิดพลาด

วิธีแก้ไข: ฝึกอบรมหรือเขียนสูตรอาหารที่พนักงานสามารถเข้าใจได้ง่ายที่สุด อาจมีรูปภาพอธิบายเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้พนักงานเข้าใจได้ง่ายขึ้น และลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

ความท้าทายที่ 4: ความรู้ความเข้าใจของพนักงาน

ทีมครัวของคุณอาจจะไม่รู้ถึงสารปนเปื้อนที่สามารถเติบโตบนอาหาร และวิธีการป้องกันมัน

วิธีแก้ไข: ฝึกอบรมให้พนักงานเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหารและวัตถุดิบ พร้อมบอกขั้นตอนวิธีในการรักษาความสะอาดที่ถูกวิธี รวมถึงวิธีการป้องกันต่าง ๆ เพิ่มเข้าไปด้วย

ความท้าทายที่ 5: ผู้จัดส่งสินค้าอาหาร (Supplier)

เป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถติดตามและตรวจสอบว่าผู้จัดส่งของสินค้าอาหารได้ตลอดเวลาว่าเขาจะปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารได้อย่างถูกต้องมากน้อยแค่ไหน

วิธีแก้ไข: เลือกซื้อวัตถุดิบจากซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้และมีประวัติที่ดีเท่านั้น อย่าลืมสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ ถ้าเป็นไปได้ควรมีการตรวจสอบแบบไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า (Surprise Check) เยี่ยมชมโรงงานเป็นครั้งคราว เพื่อสุ่มตรวจสอบความสะอาดว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ และอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว คือการสอบถามจากผู้ใช้บริการรายอื่น ๆ

ความท้าทายที่ 6: ลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงจากโรคระบาด

เด็กน้อย คนตั้งครรภ์ และคนชรา มีโอกาสสูงกว่าคนทั่วไป ที่จะเกิดอาการเจ็บป่วยจากการทานอาหาร

วิธีแก้ไข: ปฏิบัติกับลูกค้าทุกคนเหมือนเป็นลูกค้ากลุ่มเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ ที่มีความเสี่ยงสูง โดยการรักษามาตรฐานความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญ พนักงานจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีความตื่นตัวและระมัดระวังจนเป็นนิสัย

ความท้าทายที่ 7: พนักงานลาออก

นำไปสู่วงจรที่ทำให้เจ้าของกิจการต้องเสียเม็ดเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานใหม่และการฝึกอบรมใหม่ของพนักงานให้สามารถปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety Standards)

วิธีแก้ไข: อันดับแรกต้องพยายามรักษาพนักงานโดยการสร้างแรงบันดาลใจอยู่เสมอ เช่น การให้กำลังใจและชมเมื่อเขาทำงานได้ดี หรือให้รางวัลแก่พนักงานที่ตั้งใจทำงาน นอกจากนี้เจ้าของร้านสามารถมีสูตรอาหารมาตรฐานแบบเร่งรัดสำหรับพนักงานใหม่เพื่อปูพื้นฐาน ก่อนที่จะให้เข้าไปทำงานจริงในครัว ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนรู้และทำตามสูตรได้ตามหน้าตา และรสชาติให้ออกเหมือนต้นฉบับ ยกตัวอย่างเช่น ทำสูตรแม่ซอสปรุงสำเร็จเพื่อให้พนักงานใหม่หรือใครก็ได้ปรุงอาหารให้ได้รสชาติคงที่ ได้มาตรฐานของร้าน