เคล็ดลับวิธีเก็บอาหารเหลือไว้ขายต่อสำหรับร้านอาหาร
ทำอาหารขายแล้วเหลือเยอะ จะมีวิธีการจัดการอย่างไรเพื่อไม่ให้ต้องนำไปทิ้งแล้วขาดทุน
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจร้านอาหารหลายรายมักคิดว่า ทำอาหารให้เยอะพอขาย ดีกว่าทำน้อยไปแล้วขายไม่พอ ทำให้ในแต่ละวันมีอาหารเหลือที่ขายไม่หมด จนต้องนำไปทิ้งเป็นจำนวนมาก นำไปสู่การขาดทุนในที่สุด ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชันส์ จึงมี 3 วิธีการเก็บรักษาอาหารเหลืออย่างถูกวิธี เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถนำไปขายได้ในวันต่อไป มั่นใจได้เลยว่าทุนไม่หายอย่างแน่นอน จะมีวิธีใดบ้าง ไปดูกันเลย
1 นำอาหารที่เหลือไปอุ่นก่อนแช่ฟรีซ
การเก็บรักษาอาหารด้วยการใช้ความร้อนระดับสเตอริไลซ์ เป็นการกำจัดเชื้อโรคอย่างจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุทำให้อาหารเกิดการเน่าเสีย ซึ่งอันตรายต่อผู้บริโภค ดังนั้นเพื่อไม่ให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตและปนเปื้อนในอาหาร จึงควรนำอาหารมาอุ่นที่อุณหภูมิ 100-130 องศาเซลเซียส แล้วรอให้เย็น โดยสามารถทำให้อาหารเย็นไวขึ้น ด้วยการนำหม้อที่อุ่นอาหารไปแช่ในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนักเกินไป
หลังจากนั้นนำอาหารที่หายร้อนแล้ว ใส่ลงในภาชนะที่สามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำได้ ปิดฝาให้เรียบร้อย สำหรับอาหารที่สามารถเก็บได้นาน แนะนำให้เขียนป้ายวันที่นำอาหารมาแช่ติดไว้หน้ากล่อง เพื่อเป็นข้อมูลว่าเก็บอาหารมาแล้วกี่วัน และยังเป็นการช่วยตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ต้องทิ้งอาหารกล่องนั้น ๆ แล้วหรือยัง สุดท้ายนำอาหารไปแช่ช่องฟรีซ วันต่อมาจึงนำมาอุ่น เพื่อขายใหม่
2 ดัดแปลงเป็นเมนูใหม่
การทิ้งอาหารที่เหลือจากการขาย นอกจากจะเสียต้นทุนแล้ว ยังเป็นการสร้างขยะอาหารสู่โลก ดังนั้นการนำอาหารที่ขายไม่หมด มาดัดแปลงสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเมนูใหม่ เพื่อขายวันต่อไปจึงเป็นการแก้ไขที่ดีต่อทั้งร้านและโลก เช่น การนำแกงเขียวหวานที่เหลือ มาทำเป็นข้าวผัดแกงเขียวหวานหรือจะการนำเมนูสุดฮิตอย่างต้มยำมาดัดแปลง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กลายเป็นเมนูสุดครีเอตอย่างข้าวผัดต้มยำ คอหมูย่างตะไคร้
3 เก็บเมนูกะทิให้ถูกวิธี ไม่เสียง่าย
เมนูกะทิถือได้ว่าเป็นแกงปราบเซียน เพราะเป็นเมนูที่เสียได้ง่าย แต่ถ้าหากเก็บถูกวิธีก็สามารถนำกลับไปขายวันต่อไปได้
สำหรับการถนอมแกงกะทิให้สามารถอยู่ได้นานก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่นำแกงกะทิไปแช่ในช่องฟรีซ ที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิของอาหารให้ต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ และในส่วนของเมนูข้าวซอย สามารถรวมน้ำซุปกับเนื้อสัตว์เก็บไว้ด้วยกันได้โดยไม่ต้องแยกก่อนจะนำไปแช่ฟรีซ
โดยเมื่อจะนำไปขาย ให้นำแกงกะทิออกมาคลายความเย็นในตู้เย็นช่องธรรมดา แล้วนำไปอุ่นด้วยไฟอ่อน หากไม่อยากให้แกงแตกมันเยอะ แนะนำให้อุ่นด้วยการนึ่ง
เมื่อเจ้าของธุรกิจร้านอาหารรู้แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำทริควิธีต่าง ๆ ไปปรับใช้ให้เข้ากับร้านตัวเอง เพื่อช่วยลดขยะอาหาร และร้านจะได้ไม่ขาดทุน แต่ถ้าจะให้ดี ควรเตรียมอาหารไว้อย่างพอดี ไม่มากเกินไป เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่ทำสดใหม่วันต่อวัน
หากผู้ประกอบการอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดขยะอาหาร สามารถเรียนคอร์สเรียนฟรีออนไลน์ของเรา UFS Academy ซึ่งนอกจากคอร์สสอนการจัดการขยะอาหารแล้ว ยังมีคอร์สที่เป็นประโยชน์อีกมากมายสำหรับเชฟและผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร
คอร์สเรียนฟรีออนไลน์: คอร์สจัดการขยะอาหารและคอร์สอื่นๆ
ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ คอร์สเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับเชฟและผู้ประกอบการร้านอาหาร คอร์สใหม่อัพเดททุกเดือน
เคล็ดลับอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดการต้นทุนร้านอาหาร
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
- ฟรี หลักสูตรอบรมด้านธุรกิจอาหารและการทำอาหาร
- สูตรอาหารและเคล็ดลับที่ดีที่สุดจากเชฟทั่วโลก
- เทรนด์การทำอาหารล่าสุด