เทคนิคการตลาดร้านอาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์

การทำธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันนั้น ลูกค้าถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการอย่างเราจะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด การใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ลูกค้าขาจรของเรากลายเป็นลูกค้าประจำได้มากขึ้น และถึงแม้ว่าตอนนี้ธุรกิจร้านอาหารจะต้องอยู่ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส ซึ่งส่งผลให้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนัก และต้องคอยปรับตัว คิดการตลาดใหม่ ๆ เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการที่ร้านอยู่เสมอ การทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียหรือสื่อสังคมออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ เพียงแค่ร้านคุณมีคอนเซ็ปต์ร้านที่เรียบง่าย และครีเอทสิ่งเหล่านั้นออกมาด้วยความคิดสร้างสรรค์ ต่อให้ต้องเจอกับวิกฤติอีกกี่รอบ ร้านของคุณก็ยังโดดเด่นเหนือคู่แข่ง พร้อมมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้านอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ขอเสนอวิธีการจะทำให้ร้านอาหารของคุณยืนหนึ่งในใจลูกค้ากับ 3 เทคนิคการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย

1 สื่อสังคมออนไลน์เป็นสิ่งที่ธุรกิจอาหารขาดไม่ได้

จากผลสำรวจล่าสุดพบว่าคนไทยใช้สื่อสังคมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อมูลจาก Global Digital Report 2021 ของ We Are Social และ Hootsuite ที่เป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ เปิดสถิติถึงเดือนกรกฎาคม ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 พบว่าพฤติกรรมใช้สื่อออนไลน์ของคนไทย 'ติดอันดับโลก' โดยพบว่าคนไทย 69% อยู่บนโลกออนไลน์ และใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นช่องทางหลักในการอัปเดตข่าวสารเป็นอันดับ 1 ของโลกในปีนี้ มากถึง 78% และแน่นอนว่า "สื่อออนไลน์" กลายเป็นช่องทางในการรับรู้ข่าวสารของคนไทยที่มีอิทธิพลมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ทำไมร้านต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อทำการตลาด

ก่อนจะเริ่มใช้สื่อสังคมออนไลน์ทำการตลาด สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ให้ถูกต้องเสียก่อน หากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์แล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่หากคุณไม่ได้เป็นคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการทำการตลาดเป็นหลัก ต้องมาอ่านสาเหตุที่ร้านคุณควรมีตามด้านล่างนี้เลย

• ปัจจุบันมีผู้ใช้เฟสบุ๊คมากกว่าพันล้านรายต่อวัน โดยมีคนแชร์ โพสต์ และมีส่วนร่วมกับเนื้อหาคอนเทนต์ทุกประเภทบนสื่อออนไลน์
• ตั้งแต่การรับประทานอาหารไปจนถึงการเขียนรีวิวจากผู้บริโภคจริงผ่านสื่อออนไลน์ จะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากคุณต้องการขยายฐานลูกค้า สื่อออนไลน์จะช่วยทำให้ร้านคุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
• ผู้ใช้เฟสบุ๊คราวๆ 39% ติดตามแฟนเพจเนื่องจากอยากทราบข้อเสนอพิเศษ โปรโมชั่นของธุรกิจนั้นๆ ก่อนคนอื่น ซึ่งแปลว่าหากคุณเปิดเพจร้านอาหารของคุณ และมีผู้กดติดตาม เกือบครึ่งหนึ่งในนั้นสนใจร้านคุณและรอให้คุณแจ้งความเคลื่อนไหวกิจกรรมส่งเสริมการขายของร้านผ่านสื่อสังคมออนไลน์แน่นอน
• เกือบ 50% ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารผ่านสื่อสังคมออนไลน์

เฟสบุ๊ค อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ (Facebook, Instagram & Twitter): ร้านจะใช้แต่ละช่องทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

• สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เจ้าของร้านต้องพิจารณาว่าการมีโปรไฟล์ธุรกิจบนสื่อสังคมออนไลน์นั้นคุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ รวมถึงการที่คุณต้องเช็กว่าร้านอาหารของคุณมีการจัดการ และอัปเดตโซเชียลมีเดียทั้ง 3 ช่องทางอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ หากไม่เป็นเช่นนั้น อยากให้คุณลองจัดลำดับความสำคัญในการสร้างโปรไฟล์ และนำเสนอคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ร้านตั้งไว้เสียก่อน
• ใช้เวลาการทำความเข้าใจแต่ละช่องทางบนโลกออนไลน์ และปรับแต่งเนื้อหาที่นำเสนอด้วยภาษา และโทนเสียงที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่เป็นทางการมากจนเกินไปบนเฟสบุ๊คเพื่อทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้รูปภาพ รวมถึงการใส่แฮชแท็กเข้าไปในแคปชันบนอินสตาแกรมเพื่อเพิ่มการมองเห็นของคนได้มากขึ้น หรือจะเลือกเขียนทวีตสั้น ๆ ผ่านทวิตเตอร์เพื่อโปรโมทร้านอาหารให้คนรู้จักเพิ่มขึ้น ก็สามารถทำได้เช่นกัน

2 ใช้สื่อสังคมออนไลน์บอกต่อมาตรการความปลอดภัยด้านอาหารของร้าน

เพราะความปลอดภัยด้านอาหารของลูกค้าคือหน้าที่สำคัญของร้านอาหาร เมื่อพูดถึงการกินและออกไปดื่มนอกบ้าน ในทุกวันนี้ลูกค้ามักจะมองหาสิ่งต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองโดยคำนึงถึงเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคม และความปลอดภัยต่อสุขภาพเป็นหลัก การลงทุนเรื่องเวลาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียโดยแสดงให้เห็นว่าร้านมีการใส่ใจเรื่องความปลอดภัย จะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้านึกถึงร้านคุณเป็นอันดับแรก ๆ และพร้อมที่จะกลับไปใช้บริการที่ร้านคุณอีกครั้ง ในขณะเดียวกันมาตรการรับรองด้านความปลอดภัยเรื่องสุขภาพของพนักงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยขั้นตอนต่อไปนี้ จะช่วยทำให้ร้านของคุณสามารถพัฒนามาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าได้

• ตั้งกฎให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety)อย่างเคร่งครัด
• รักษาระยะห่างระหว่างผู้ใช้บริการ เลี่ยงการนั่งหันหน้าเข้าหากัน
• รักษาระยะห่างอย่างน้อยหนึ่งเมตร ตั้งโต๊ะห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตร หรือตั้งฉากกั้นระหว่างโต๊ะ
• จัดที่นั่งบริเวณเคาน์เตอร์ให้ห่างกันอย่างน้อยหนึ่งเมตร หรือจะวางฉากกั้นบนเคาน์เตอร์ เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างพนักงานและลูกค้า
• ร้านอาหารต้องระบายอากาศให้เหมาะสม โดยการเปิดหน้าต่างหรือประตูทิ้งไว้เป็นเวลาห้านาทีทุกครึ่งชั่วโมงเพื่อรระบายอากาศออก
• ต้องมีการตกลงกับลูกค้า ด้วยการแนะนำให้ลูกค้าสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นขณะนั่งที่โต๊ะทานอาหารเท่านั้น
• มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้าก่อนเข้าร้าน และฆ่าเชื้อโรคที่มือ รวมถึงมีการเช็กพนักงาน และลูกค้าก่อนเข้าร้านด้วยการตรวจหาเชื้อ Antigen Test Kit (ATK) หรือมีใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดส
• ปรุงอาหารสดใหม่ จานต่อจาน ‘ปลอดภัย ไร้กังวล’ ซึ่งเจ้าของร้านสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คนอร์ ที่มีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานการผลิต ในการปรุงอาหารให้มีความสะอาด และได้มาตรฐานความอร่อยแบบมืออาชีพ
• สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการเป็นกลุ่ม จะต้องแบ่งให้นั่งแยกหลายโต๊ะ และมีการแจ้งให้ลูกค้างดเดินไปมาระหว่างโต๊ะ
• มีการบอกให้ลูกค้าสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนใช้บริการ

เมื่อร้านอาหารปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญเลยคือต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นความมุ่งมั่นและทุ่มเทของร้านที่จะลดการแพร่ระบาดของโรคอย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจและสบายใจในการกลับมาใช้บริการที่ร้านได้อีก ซึ่งเจ้าของร้านสามารถโพสต์ภาพถ่าย หรือวีดีโอเกี่ยวกับมาตรการที่ร้านได้ทำผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ได้เลย

3 รูปสวยลงสื่อสังคมออนไลน์ดึงดูดลูกค้าได้เสมอ

เพราะรูปอาหารที่ดีเป็นด่านแรกที่ทำให้ลูกค้าสนใจร้านเราได้ การทำให้ภาพอาหารของร้านเราดึงดูดสายตาลูกค้าได้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะรูปภาพอาหารที่ดูอร่อยน่าทาน จะช่วยเพิ่มยอดขายรายการเมนูนั้นได้ถึง 30% ดังนั้นเมื่อคุณทำการตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ ต้องอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าภาพอาหารที่คุณจะโพสต์นั้นสมบูรณ์แบบ ลูกค้าเห็นแล้วรู้สึกอยากทาน เจ้าของธุรกิจร้านอาหารสามารถดู 6 เทคนิคถ่ายรูปอาหารให้น่าทานสำหรับลงสื่อสังคมออนไลน์ที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้ออาหารร้านคุณได้ง่ายขึ้น 

นอกจากรูปอาหารที่สวยน่าทานที่เจ้าของร้านโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์แล้ว เราแนะนำให้มีการนำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลาย แล้วควรมีการเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลอยู่เสมอเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของร้าน ร้านสามารถคิดเมนูที่ถูกปากคนไทย ตั้งชื่อเมนูให้จำง่าย ๆ และน่าสนใจ พร้อมโพสต์รูปภาพสวย ๆ ผ่านสื่อออนไลน์ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ร้านคุณอยู่ในความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

อย่ามองข้ามรูปและรีวิวจากลูกค้า (User-Generated Content)

เมื่อร้านมีบัญชีธุรกิจบนสื่อสังคมออนไลน์แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีลูกค้าแวะเวียนมามีปฏิสัมพันธ์บนเพจร้าน เช่น มีการแสดงความคิดเห็นให้คำติชมบนโพสในเฟสบุ๊คหรือที่หน้ารีวิวในกูเกิลมายบิซิเนส (Google My Business) ของร้าน ซึ่งคอนเทนต์จากลูกค้า (User-Generated Content) เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ร้านสามารถนำมาต่อยอดสร้างคอนเทนต์ในการทำโพสนอกเหนือจากการโพสต์รูปของร้านเองได้ ตัวอย่างเช่น

• นำรูปที่ลูกค้าถ่ายลงบัญชีโซเชียลของลูกค้ามารีโพสต์ลงเพจของร้านหลังจากได้รับคำอนุญาตจากลูกค้า พร้อมขอบคุณลูกค้าในโพสต์ที่ได้แวะเวียนมาทานที่ร้าน
• ทำแคมเปญให้ลูกค้าโพสต์รูปและรีวิวบนสื่อสังคมออนไลน์ของร้าน พร้อมมอบส่วนลดพิเศษ
• นำรีวิวทางบวกที่ลูกค้าแสดงความคิดเห็นมาสร้างเป็นโพสต์เพื่อให้ลูกค้าท่านอื่นเห็นว่าลูกค้าที่มาใช้บริการชื่นชอบร้านของคุณอย่างไรบ้าง
• สร้างโพสต์หรือโพลสำรวจสอบถามความคิดเห็นจากผู้ติดตามในเพจเกี่ยวกับเมนูใหม่ที่ร้านคิดค้นโดยโพสต์รูปเมนูนั้นๆ