ทำอาหารยังไง ให้กลิ่นหอมพร้อมพิชิตใจลูกค้า!
เคยเดินผ่านร้านขนมปังแล้วได้กลิ่นหอมจนต้องแวะซื้อติดมือ หรือเดินผ่านคาเฟ่แล้วแวะซื้อกาแฟกันไหมคะ? เชื่อว่าถึงแม้บางคนอาจไม่ได้แวะซื้อ แต่ก็ต้องรู้สึกอยากกินขึ้นมาบ้าง รวมถึงยังช่วยให้รู้สึกดีกับร้านนั้นๆ อีกด้วยนะ จากงานวิจัย กลิ่นหอมช่วยเพิ่มการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้มากถึง 70% จึงไม่แปลกที่แบรนด์ร้านอาหารดังๆ มากมายจะเลือกใช้ “กลิ่น” มาทำการตลาดอย่างเรียบง่ายและแยบยล
แน่นอนว่าการทำอาหารย่อมทำให้เกิดกลิ่นอยู่แล้ว แต่การจะให้กลิ่นหอมเตะจมูกเป็นพิเศษย่อมต้องมีเคล็ดลับ! วันนี้เราจะมาเผย 5 เคล็ดลับ วิธีทำอาหารยังไงให้กลิ่นหอมกัน
เคล็ดลับที่ 1 ใช้กระทะเหล็ก
กระทะเหล็ก (Wok) หรือ “กระทะจีน” เป็นกระทะที่มีการใช้กันมายาวนานกว่า 2,000 ปี โดยกระทะเหล็กสามารถนำความร้อนได้ดี ร้อนเร็ว และเก็บรักษาความร้อนได้นาน ซึ่งพอร้อนเร็วจึงต้องใช้การกระดกกระทะในการควบคุมความร้อน ทำให้อาหารได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง ผลพลอยได้ตามมาก็คือ กลิ่นหอมที่ฟุ้งตามการกระดกกระทะนั่นเอง
แต่นอกจากนั้นยังมี “กลิ่นกระทะ” ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของกระทะเหล็กที่เกิดการแตกหักของไขมันไม่อิ่มตัว รวมถึงกรดอินทรีย์ คีโตน และแอลกอฮอล์
การใช้กระทะเหล็กผัดอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตยังช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ด ซึ่งเป็นกลิ่นของการสลายตัวของน้ำตาล ช่วยทำให้ได้กลิ่นหอมฟุ้งขึ้นอีกด้วย
เคล็ดลับที่ 2 ใช้ไฟแรง
กระทะเหล็กกับไฟแรงเป็นของคู่กัน เราคงเคยเห็นร้านแถวเยาวราช รวมถึงร้านไฟแดงทั้งหลาย ผัดด้วยไฟแรงสูงจนท่วมทั้งกระทะ นั่นไม่ใช่การทำเพื่อความตื่นตาและน่าสนใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีผลต่อกลิ่นของอาหาร
การทำอาหารด้วยไฟแรงจะทำให้เกิดการแตกหักของสารด้วยความร้อนเพิ่มขึ้น เกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดมากขึ้น และได้กลิ่นที่มีมิติเพิ่มขึ้นมา เช่น กลิ่นไหม้กระทะจากน้ำมัน กลิ่นโลหะ กลิ่นควันเทียน กลิ่นเค็ม และกลิ่นหวานปนมาด้วย ทำให้อาหารมีความพิเศษขึ้นไปอีกขั้น
เคล็ดลับคือการตั้งกระทะให้ร้อนจนไอขึ้นเล็กน้อย ก่อนใส่น้ำมันลงไปวนให้ทั่วกระทะ น้ำมันจะทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบกระทะและให้กลิ่นเข้าไปในอาหาร
เคล็ดลับที่ 3 ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และแห้ง
การใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และคุณภาพสูง ถือเป็นหัวใจหลักของการทำอาหารอยู่แล้ว ยิ่งวัตถุดิบสดใหม่ ยิ่งมีสารอินทรีย์ที่จะเกิดเป็นกลิ่นได้ดีกว่า นอกจากนั้นการใช้วัตถุดิบที่แห้งยังช่วยลดน้ำที่จะมาผสมในอาหาร ทำให้กลิ่นที่ชัดเจนขึ้นด้วย
เคล็ดลับที่ 4 ใช้ซอสและเครื่องเทศให้พอเหมาะ
การปรุงอาหารที่ดีนั้นควรให้เครื่องปรุงและเครื่องเทศส่งเสริมรสชาติของวัตถุดิบหลัก การใช้เครื่องปรุงและเครื่องเทศในสัดส่วนที่พอเหมาะ จะช่วยส่งเสริมให้วัตถุดิบให้หอมอย่างขึ้นและมีรสชาติที่ลงตัว
เคล็ดลับที่ 5 อย่าปรุงอาหารนานเกินไป
การปรุงอาหารที่นานเกินไป หรือ Overcook จะทำให้อาหารเละ นอกจากนั้นยังส่งผลให้รสชาติและกลิ่นจางหายไปตามระยะเวลาการปรุง ดังนั้นควรปรุงอาหารในเวลาที่เหมาะสม สุกกำลังดี
ทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับการปรุงอาหารที่จะช่วยให้กลิ่นฟุ้งเตะจมูก จนลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องให้ความสนใจแน่นอน แต่นอกจากเรื่องกลิ่นของอาหารแล้ว กลิ่นของร้านก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันนะคะ เราควรควบคุมกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้ดีไม่ให้กลิ่นขยะ กลิ่นของเสีย มาทำให้รู้สึกว่าร้านไม่สะอาด โดยเราสามารถใช้เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องหอมเสริมบรรยากาศร้าน เพื่อให้ร้านของเราน่าอร่อยและรู้สึกสะอาดนั่นเอง
กลับสู่ เคล็ดลับการทำอาหารไทย