วิธีการเลือกซื้อไส้กรอกให้ปลอดภัย พร้อมแจกสูตรไส้กรอกทำเอง
เมื่อต้องซื้อไส้กรอก จะต้องดูอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ไส้กรอกที่ปลอดภัย มีคุณภาพ ถูกสุขลักษณะ
ซื้อผิด ชีวิตเปลี่ยน จะซื้อไส้กรอกทั้งที ต้องคิดให้ดีก่อนซื้อ เพราะหากไม่ดูให้ดี จะต้องเจอกับไส้กรอกพิษที่ไม่มีการควบคุมการผลิต รวมถึงการใช้วัตถุเจือปนอาหารอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังมีขั้นตอนการผลิตที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หากคุณเป็นคนที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเลือกซื้อไส้กรอกให้สะอาด และปลอดภัย ตามยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์มาดูวิธีเลือกซื้อไส้กรอกให้ปลอดภัย พร้อมแจกสูตรไส้กรอกทำเอง สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล มาดูกันเลย
1 เลือกซื้อไส้กรอกที่มีสีต้องตรงกับเนื้อสัตว์
เพราะการเลือกซื้อไส้กรอกที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย เวลาซื้อไส้กรอกจะต้องมีการสังเกตสีของไส้กรอกที่ต้องการซื้อก่อนเสมอ เนื่องจากสีของไส้กรอกที่มีสีชมพู หรือสีแดงเข้มจนเกินไป บ่งบอกได้ถึงการใส่สารเจือปนที่เป็นอันตรายได้ ถึงแม้ว่าสีที่เข้มจะทำให้ไส้กรอกดูสด น่าทาน แต่ตามหลักความจริงแล้วไส้กรอกที่มีสีแดงสดผิดปกติ อาจมีการใส่สี หรือวัตถุกันเสียเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด อย่างเช่น สารโซเดียมไนไตรท์ (Sodium Nitrite) ซึ่งเป็นวัตถุเจือปนอาหารที่ช่วยป้องกันไม่ให้อาหารบูดเน่า ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ และทำให้เนื้อมีสีแดงน่ารับประทาน
หากผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าวในปริมาณมากเกินไป จะทำให้มีอาการหน้าแดง ไม่สบายท้อง ปวดศีรษะ เนื้อตัวเขียว คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยอาการเหล่านี้จะยิ่งอันตรายถ้าเกิดในเด็ก เราควรเลือกสีไส้กรอกที่มีความเป็นสีธรรมชาติจากวัตถุดิบส่วนผสมตั้งต้นจะปลอดภัยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
- ไส้กรอกไก่ควรเป็นสีขาว หรือสีอมเหลืองในกรณีเป็นแบบรมควัน
- ไส้กรอกหมูควรเป็นสีชมพูอ่อน ๆ
ผู้ประกอบการสามารถพิจาณาการซื้อไส้กรอกได้ด้วยจากการสังเกตจากกลิ่น และรสที่ต้องตรงกับสีของเนื้อสัตว์ ยกเว้นผลิตภัณฑ์ประเภทไส้กรอกรมควันที่อาจจะทำให้สีของไส้กรอกมีสีเข้มขึ้นได้ และหากพบว่าไส้กรอกที่กำลังซื้อมีสีที่แตกต่าง และเข้มจนผิดสังเกต เจ้าของร้านจะต้องหลีกเลี่ยง และอย่าซื้อเด็ดขาด
2 เลือกซื้อไส้กรอกที่มีเครื่องหมาย อย. และ มอก.
ควรมีการเลือกซื้อไส้กรอกจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ โดยบนบรรจุภัณฑ์จะต้องระบุสถานที่ผลิต วันผลิต และวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน ควรมีเครื่องหมายรับรอง อย่าง อย. หรือ มอก. หรือตรามาตรฐานอื่น ๆ ที่เป็นสากล เช่น เครื่องหมายฮาลาล สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความมั่นใจในการซื้อไส้กรอกได้อีกทางหนึ่ง และจะต้องจำไว้เสมอว่าไส้กรอกที่ไม่มียี่ห้อ หรือไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการใช้ไนเตรทและไนไตรท์ที่เกินกำหนดได้ โดยทั่วไปไส้กรอกจะมีสารประเภทไนไตรท์ในปริมาณที่กำหนด เพื่อใช้ในการคงสภาพสีแดงอมชมพู และถนอมอาหาร แต่หากมีการใช้ไนไตรท์ในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย และเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ เนื้อสัตว์ที่นำมาทำจะต้องสดและสะอาด รวมถึงจะต้องมีกระบวนการชำแหละ และตัดแต่งที่ได้มาตรฐาน จากนั้นจึงนำเนื้อสัตว์เข้าสู่กระบวนการบด ก่อนนำส่วนผสมตามอัตราส่วนที่กำหนดใส่ลงไปปรุง ทั้งเครื่องเทศ เกลือ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะต้องมีการคลุกเคล้าจนเนื้อเข้ากันดี แล้วสับส่วนผสมทั้งหมด ส่งต่อไปยังกระบวนการขึ้นรูปเป็นไส้กรอก ดังนั้นเจ้าของร้านควรมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของการผลิตไส้กรอกให้ดี เลือกซื้อไส้กรอกในภาชนะบรรจุที่มีเครื่องหมาย อย. มีการแสดงฉลากที่ถูกต้อง และผลิตจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้
3 เลือกซื้อไส้กรอกที่ถูกเก็บไว้ในความเย็นตลอดการจำหน่าย
ก่อนซื้อจะต้องมีการตรวจสอบคนขาย หรือพ่อค้าคนกลางให้ดีก่อนว่าทางร้านมีการจัดเก็บสินค้าเพื่อจำหน่ายไว้ที่อุณหภูมิต่ำ 0 - 4 องศาเซลเซียส และแช่เย็นตลอดเวลาที่มีการจำหน่ายหรือไม่ หากมีความจำเป็นต้องซื้อตามตลาดสดที่มีการตักแบ่งมาขาย เจ้าของร้านจะต้องมั่นใจว่าคนขายมีการจัดเก็บไว้ในตู้แช่ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ และจะต้องมีการวางขายในสถานที่ที่มีความสะอาดปราศจากฝุ่น และควัน ถูกสุขอนามัยโดยเฉพาะไส้กรอกที่ไม่ได้บรรจุในถุงสุญญากาศ และเป็นไปตามมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ เจ้าของธุรกิจจะต้องมีการพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อให้ดี เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับลูกค้าที่มาทานนั่นเอง
4 เลือกซื้อไส้กรอกที่มีบรรจุภัณฑ์ และวัตถุเจือปนได้มาตรฐาน
การดูบรรจุภัณฑ์ไส้กรอกก่อนซื้อถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด โดยบรรจุภัณฑ์จะต้องมีมาตรฐานฟู้ดเกรด (Food Grade) หรือใช้กับอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่จะต้องมีความแน่นหนา และสามารถทนต่ออุณหภูมิความร้อน-เย็นได้ เพราะถ้าหากเรานำไปทำให้สุกโดยการใช้ไมโครเวฟทั้งถุง อาจจะทำให้มีสารปนเปื้อนขณะที่ลูกค้ารับประทานเข้าไป
สำหรับวัตถุเจือปนนั้น ในการผลิตไส้กรอกถือว่ามีความจำเป็นต้องใส่สารประกอบกลุ่มไนไตรท์-ไนเตรท (Nitrite and Nitrates) ในปริมาณที่เหมาะสมตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนด ผู้ซื้อสามารถอ่านฉลากสินค้าเพื่อรู้ปริมาณการใช้วัตถุเจือปนของไส้กรอกได้ดังนี้
- เกลือโซเดียมไนไตรท์ได้ไม่เกิน 125 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักผลิตภัณฑ์
- โซเดียมไนเตรทใช้ได้ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัมของน้ำหนักผลิตภัณฑ์
วัตถุเจือปนดังกล่าวจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเสื่อมเสียของอาหาร ในขณะเดียวกันจะช่วยทำให้ผลิตภัณฑ์มีสีชมพู และสีสวยน่าทานคงอยู่ได้นาน
และนี่ก็คือเคล็ดลับวิธีการเลือกซื้อไส้กรอกที่ถูกวิธี ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย และไร้สารพิษ เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าที่มาทานที่ร้าน แต่ยังมีอีกหนึ่งเคล็ดลับสุดท้ายในการสั่งซื้อไส้กรอกสำหรับเจ้าของร้านอาหาร นั่นก็คือจะต้องมีการคำนวณปริมาณไส้กรอกให้ดีก่อนทำการสั่งซื้อเสมอ โดยจะต้องกำหนดปริมาณไส้กรอกให้พอดีกับความต้องการ ป้องกันการเสียเงินในมือ และเซฟต้นทุนอาหารไม่ให้เหลือทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร้านคุณประหยัดต้นทุนได้อยู่หมัด ไม่ต้องมีของเหลือทิ้งให้เจ็บปวดใจ
การใช้เครื่องปรุงที่เป็นแบบสำเร็จรูปจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการเลือกใช้ผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ จะช่วยลดการเสียต้นทุนในการขนส่ง และช่วยควบคุมต้นทุนอาหารได้สบาย งบไม่บานปลาย อาหารหอมอร่อย ทำจากเนื้อหมูแท้ ๆ ครบสูตรเครื่องเทศต้นตำหรับไทยแท้ หากนำไปปรุงในไส้กรอกจะทำให้มีกลิ่นที่หอม รสชาติอร่อยกลมกล่อม
เคล็ดลับการเก็บรักษาไส้กรอก
หลังจากที่ซื้อไส้กรอกแล้วแนะนำให้มีการเก็บรักษาดังนี้
- ควรมีการเก็บไส้กรอกไว้ในตู้เย็น แช่ที่อุณหภูมิ 0-4 องศาเซลเซียส ในช่องแช่ปกติ ช่องไหนก็ได้ ยกเว้นช่องแช่แข็ง เช่น สามารถแช่ไส้กรอกไว้ที่ชั้นวางปกติ หรือกระบะผัก เป็นต้น เนื่องจากตู้เย็นจะมีการกระจายความเย็นได้ทั้งตู้ที่อุณหภูมิไม่เกิน 4 องศาเซียลเซียส
- ควรใช้ไส้กรอกในการทำอาหาร หรือใช้เป็นอาหารว่างสำหรับลูกค้า ให้หมดภายใน 1-2 วัน ห้ามวางไส้กรอกในอุณหภูมิปกติ หรือนอกตู้เย็นเด็ดขาด เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จะทำให้ผลิตภัณฑ์เสียได้ง่าย มีผลต่อโรคทางระบบอาหาร เช่น ท้องเสีย เป็นต้น
- หลังจากที่ซื้อไส้กรอก ไม่ควรเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง เนื่องจากความเย็นจัดแบบติดลบ มีผลต่อรสชาติของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะทำให้เนื้อสัมผัสของไส้กรอกไม่กรอบอร่อย และไม่เด้งได้ โดยการแช่แข็งไม่ได้ทำให้ผลิตภัณฑ์เสีย แต่จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีรชาติที่ไม่อร่อยได้ ยกเว้นในกรณีที่ไส้กรอกซื้อมานั้นมีการถูกแช่แข็งมาตั้งแต่แรก จะต้องมีการนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง
- หากนำผลิตภัณฑ์ออกมาทำให้ละลายแล้ว ไม่ควรนำไปแช่แข็งซ้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้ไส้กรอกสูญเสียรสชาติ และมีเนื้อสัมผัสที่ไม่อร่อยเหมือนเดิมได้
สูตรไส้กรอกทำเอง ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย
ส่วนผสมไส้กรอกทำเอง
- เนื้อหมูบดติดมัน 1,500 กรัม
- ไข่ไก่ 45 กรัม (1ฟอง)
- ผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ 10 กรัม
- พริกไทยดำแบบป่น 3 กรัม
- ผงกระเทียม 5 กรัม
- เกลือสมุทร 5 กรัม
- หอมใหญ่สับละเอียด 100 กรัม
- ไส้หมูขม 1 กิโลกรัม
- น้ำมันสำหรับทาไส้กรอก
วิธีทำไส้กรอก
- ใส่เนื้อหมูบด ไข่ไก่ ผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ พริกไทยดำป่น ผงกระเทียม เกลือสมุทร และหอมใหญ่ ลงในโถปั่น จากนั้นปั่นทุกอย่างให้เข้ากันจนละเอียด
- ตักส่วนผสมที่เข้ากันดีแล้วใส่อ่างผสม แล้วนำไปแช่ตู้เย็นในช่องธรรมดาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ระหว่างรอ เตรียมไส้หมูขม โดยตัดให้มีความยาวประมาณ 20 นิ้ว จากนั้นทำการกลับไส้โดยใช้ปลายตะเกียบดันไส้จากด้านนอกเข้าด้านใน แล้วใช้นิ้วมือช่วยดันจนสุด
- ขูดเมือกให้ออกจนหมดด้วยมีดหรือช้อน จากนั้นกลับไส้อีกครั้งให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม
- นำไส้ไปขยำด้วยเกลือป่น และนำไปล้างน้ำโดยนำไปเปิดน้ำก๊อกไหลผ่านไส้จนสะอาด จากนั้นนำไปแช่น้ำส้มสายชูเจือจาง ประมาณ 5 นาที แล้วล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง แล้วปล่อยพักไว้
- มัดปลายไส้ด้านหนึ่งให้แน่น แล้วนำส่วนผสมที่หมักแช่ตู้เย็นไว้มากรอกลงในไส้ โดยค่อย ๆ บีบไล่ส่วนผสมลงไปเรื่อย ๆ จนเต็ม
- เหลือปลายไส้ไว้ประมาณ 2 นิ้วเพื่อมัดปลาย จากนั้นบิดไส้ให้เป็นปล้องยาวประมาณ 4 นิ้วหรือตามขนาดที่ชอบ ค่อย ๆ ทำทีละปล้อง พอสุดแล้วจึงมัดปลายไส้ให้แน่น แล้วพักไว้
- เปิดกระทะที่ไฟกลางค่อนทางอ่อน ค่อย ๆ ทาน้ำมันให้ทั่วไส้กรอก แล้วทำการวางไส้กรอกลงในกระทะ หาฝาหม้อครอบไว้ประมาณ 30 นาที
- เมื่อครบ 30 นาทีแล้วให้เปิดฝาเช็กว่าไส้กรอกเปลี่ยนสีสุกทั่วหรือยัง ด้วยการใช้เข็ม หรือไม้จิ้มฟันจิ้มลงบนไส้กรอก
- เมื่อไส้กรอกสุกพอดีแล้ว ให้เปิดไฟแรง ย่างต่อจนได้สีเหลืองสวยตามต้องการ ตัดเป็นชิ้น พร้อมเสิร์ฟ หรือจะนำไปปรุง และใช้เป็นส่วนผสมของอาหารจานหลักก็ได้
เคล็ดลับการทำไส้กรอก
- การใส่ผงปรุงครบรส รสหมู ตราคนอร์ อร่อยชัวร์ลงในส่วนผสมของหมูบดจะทำให้ไส้กรอกมีรสชาติที่กลมกล่อม ครบเครื่องกระเทียมพริกไทย เพราะทำจากเนื้อหมูแท้ ๆ ผสมผสานด้วยเครื่องเทศต้นตำรับไทยแท้ ทำให้ไส้กรอกมีกลิ่นหอม น่าทาน รสชาติอร่อยกลมกล่อม
- หากชอบไส้กรอกเนื้อหยาบ ในขั้นตอนปั่นของแห้งให้ปั่นส่วนผสมไม่นานนัก เพื่อไม่ให้เนื้อเนียนมาก
- สามารถเก็บไส้กรอกที่ยัดไส้เรียบร้อยแล้วในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 1-2 วัน ถ้าอยากยืดระยะเวลาเก็บรักษาก็สามารถต้ม หรือนึ่งไส้กรอกให้สุกก่อนนำไปแช่ในช่องแช่แข็งได้อีก แต่อาจทำให้เนื้อไส้กรอกมีรสสัมผัสที่แห้งกว่าปกตินิดหน่อย
- การครอบด้วยฝาหม้อในขั้นตอนการทำไส้กรอกให้สุกจะทำให้ไส้กรอกค่อย ๆ สุกได้อย่างทั่วถึง ควรเปิดฝามากลับด้านไส้กรอกเป็นระยะ ๆ ระหว่างที่ย่างไส้กรอก
เคล็ดลับอื่นๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อวัตถุดิบ
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
- ฟรี หลักสูตรอบรมด้านธุรกิจอาหารและการทำอาหาร
- สูตรอาหารและเคล็ดลับที่ดีที่สุดจากเชฟทั่วโลก
- เทรนด์การทำอาหารล่าสุด