เคล็ดลับ 4 ข้อในการอบที่สมบูรณ์แบบ
ข้อควรรู้ในการเตรียมและปรุงอาหารประเภทอบ
ไม่รักไม่ได้แล้วกับเนื้ออบจานเด็ดวันอาทิตย์ ที่คุณแม่ในอังกฤษทำในครัวด้วยความรัก ซึ่งกลายเป็นกระแสไปแล้วในวันนี้ ทั้งภัตตาคารและโรงแรมต่างพากันนำคอนเซ็ปต์จานเด็ดของคุณแม่มาใช้จนดังไปทั่วโลก อาหารมื้อเที่ยงวันอาทิตย์เข้ามาแทนที่ความนิยมอาหารมื้อบ่ายวันเสาร์ และยังเป็นอาหารจานเด่นของโปรดที่เลือกสรรมาโดยเฉพาะสำหรับโอกาสสำคัญ เช่น วันขอบคุณพระเจ้า และ คริสต์มาสที่ใกล้จะมาถึง
นั่นสิ แล้วเนื้ออบนี่มันเป็นอย่างไรนะ? เนื้ออบนั้นเป็นอาหารที่ปรุงสุกโดยผ่านความร้อนแบบแห้ง ซึ่งช่วยให้เนื้อเก็บกักน้ำหวานธรรมชาติในเนื้อไว้และทำให้ผิวนอกกรอบอร่อย
อยากรู้มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ และนี่คือวิธีวางแผนการอบเนื้อแบบกันพลาด
1. เลือกชิ้นส่วนเนื้อให้ถูก
คุณสามารถอบเนื้อโดยใช้วิธีดั้งเดิมกับเนื้อวัว เนื้อแกะ หรือเนื้อไก่ก็ได้
สำหรับเนื้อวัวนั้น เนื้อสันริบอาย (ripeye) เป็นทางเลือกที่นิยมมากที่สุด เพราะมีเนื้อนุ่มกว่าส่วนอื่น และเต็มไปด้วยมาร์บลิงหรือเส้นไขมันที่สานอยู่ในชิ้นเนื้อจึงทำให้มั่นใจในรสชาติเต็มฉ่ำทุกชิ้น หากคุณไม่ได้ริบอายมา เนื้อสัน (เนื้อสันนอก-strip loin และเนื้อสันใน-tenderloin) ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ถ้าคุณจะอบเนื้อแกะ ขาแกะจะเป็นส่วนที่ดีที่สุด เพราะมีเนื้อแดงมากและนุ่ม ส่วนไหล่และซี่โครงก็มีนำมาใช้อบกันทั่วไปเช่นกัน
เลือกไก่ที่เลี้ยงแบบออร์แกนิคมาอบอาจจะแพงขึ้นเล็กน้อยแต่รับประกันว่ามีรสชาติมากกว่า พยายามหาซื้อตัวที่เล็กหน่อย จะทำให้เนื้อสุกเสมอกันเวลาอบ
2. หมักเนื้อเพื่อให้เนื้อนุ่ม
ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าการหมักเนื้อนั้นเป็นเคล็ดลับที่ทำให้อาหารอร่อยขึ้น แต่มีน้อยคนที่จะรู้ว่ามันช่วยทำให้เนื้อนุ่มขึ้นได้ด้วย
เริ่มจากการผสมสูตรหมักด้วยกระเทียม ไทม์ โรสแมรี่ กานพลู อบเชย และพริกป่น ผสมรวมกันกับไวน์แดงหรือไวน์ขาวหรือเบียร์ก็ยังได้
ป้ายส่วนผสมให้ทั่วเนื้อและแช่ทิ้งไว้อย่างน้อยแปดชั่วโมงในตู้เย็น
3. พักเนื้อหลังจากหมักเพื่อป้องกันเนื้อช็อก
หลังจากที่หมักเนื้อได้เต็มอิ่มแล้ว (ข้ามคืน) คุณต้องการนำเนื้อออกมาวางพักไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะนำไปใส่เข้าในเตาอบ การทำดังนี้ช่วยให้เนื้อมีเวลาปรับอุณหภูมิและลดอาการช็อกจากการที่จะกระทบกับอากาศร้อนจัดในทันทีทันใด
4. อย่าอบนานเกินไป และเว้นระยะเวลาให้เนื้อพักเพื่อรักษาน้ำหวานไว้
เมื่อเตรียมพร้อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว วางชิ้นเนื้อลงบนผักหอมต่าง ๆ (คุณอาจใช้แคร์รอต ต้นหอม ต้นลีก เซเลอรี่ ไทม์ กระเทียม และ โรสแมรี่ก็ได้) ตั้งเตาอบร้อน 175˚C และพักสักนิดเพื่อคิดเลขคณิตกันหน่อย คุณต้องใช้เวลา 20–30 นาที ในการอบเนื้อที่มีน้ำหนัก 500 กรัม เพื่อให้ได้เนื้ออบสมบูรณ์แบบ (ดังนั้น ถ้าคุณมีเนื้อหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ควรจะใช้เวลาอบนานอย่างน้อย 50 นาที)
เมื่อได้ครบเวลาแล้ว วางเนื้อพักไว้อย่างต่ำ 5–10 นาที การทำเช่นนี้ช่วยรักษาน้ำเนื้อไว้ให้ซึมกลับเข้าที่ หากรีบหั่นเนื้อทันทีจะทำให้น้ำเนื้อไหลออกจนหมดทิ้งให้เหลือแต่เนื้อแห้ง ๆ ไร้รสชาติ การพักเนื้อยังช่วยให้แล่เนื้อได้ง่ายขึ้นในภายหลังอีกด้วย
กลับไปเวิลด์ คูซีน
บทความที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่คุณจะได้รับ:
- ฟรี หลักสูตรอบรมด้านธุรกิจอาหารและการทำอาหาร
- สูตรอาหารและเคล็ดลับที่ดีที่สุดจากเชฟทั่วโลก
- เทรนด์การทำอาหารล่าสุด